เมื่อเวลา 14.40 น. ที่รัฐสภา นายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย พร้อมรายชื่อ ส.ส.พรรคเพื่อไทย 20 คน ได้ยื่นเรื่องถึงสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ผ่านไปยัง นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอเสนอญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาเพื่อขอย้ายเมืองหลวงจากกรุงเทพมหานคร ไป จ.นครนายก จ.เพชรบูรณ์ และจังหวัดอื่นๆ ที่เหมาะสม โดยในญัตติดังกล่าวระบุว่า ด้วยสภาวะแวดล้อมของโลกและประเทศไทย ที่เปลี่ยนแปลงไปหลายด้าน ส่งผลให้เกิดวิกฤติภัยธรรมชาติทั้งการเกิดน้ำท่วม แผ่นดินทรุด รอยเลื่อนแผ่นดินไหว ภัยสึนามิ และจะต้องใช้งบประมาณฟื้นฟูสภาพจำนวนมหาศาล สิ่งเหล่านี้สามารถพิสูจน์ได้ว่า กทม.ที่เป็นเมืองหลวงของไทย แผ่นดินทรุดโดยเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 20 ซม. รวมถึงภาวะโลกร้อนทำให้น้ำทะเลหนุนสูงขึ้น จึงมีความเป็นไปได้ที่ กทม. จะกลายเป็นเมืองบาดาล อาจจะสร้างความเสียหาย และความเดือดร้อนแก่ประชาชนและบ้านเรือนที่อยู่อาศัยในเขต กทม.ได้ สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจึงเห็นได้ว่าควรพิจารณาศึกษาการย้ายเมืองหลวงจาก กทม.ไปยังพื้นที่ที่เหมาะสม เช่น จ.นครนายก เพชรบูรณ์ หรือจังหวัดอื่นที่มีความเหมาะสมต่อไป เพื่อเตรียมรับมือแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
นาย สถาพร ให้สัมภาษณ์ว่า ญัตตินี้พรรคได้รับหลักการให้เสนอตามที่ ส.ส.ได้เข้าชื่อเสนอ ให้เป็นเรื่องของสภาฯ โดยแนวคิดย้ายเมืองหลวงเคยมีในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่จะย้ายไปยัง จ.นครนายก และสั่งการให้สภาพัฒน์ไปศึกษาข้อมูลเบื้องต้นแล้ว จ.นครนายก มีความเหมาะสมทั้งทางกายภาพและภูมิศาสตร์ พื้นที่เป็นแนวลาดชัน หากน้ำมาก็จะไหลระบายได้เร็ว ไม่เหมือนกับ กทม.ที่เป็นแอ่ง น้ำมาจึงเป็นพื้นที่รับน้ำอย่างเดียว ดังนั้น การย้ายเมืองหลวงไปแห่งใหม่ดีกว่าจะไปทำนิวไทยแลนด์อยู่แล้ว มองทั้งเชิงโครงสร้างและแผนงานยังไงก็คุ้มค่ากว่า กทม.จะมีอะไรเป็นนิวได้อีก เราควรวางแผนสร้างความหวังให้ประชาชนใหม่ จ.นครนายก เหมาะสม ไปถึงก็วางโครงสร้าง ผังเมืองใหม่ ทั้งส่วนราชการ ศูนย์กลางเศรษฐกิจ หรือแม้แต่การขนส่ง ระบบคมนาคม ก็ไปทำรถไฟความเร็วสูงเชื่อมไปภูมิภาคตะวันออก เหนือ อีสาน หรือแม้กระทั่งทำรถไฟความเร็วสูงมายังสนามบินสุวรรณภูมิก็ไม่ไกลมาก กลับมา กทม.ก็ห่างกันเพียง 40 กม.เท่านั้น
นาย สถาพร กล่าวต่อว่า ส่วนนิคมอุตสาหกรรมหากคิดระยะยาวก็กระจายให้มาอยู่รอบนอก ทั้งสระบุรี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทราก็ได้ ส่วนแนวคิดในจังหวัดเพชรบูรณ์นั้นก็เหมาะสมเช่นกัน ทั้งทางภูมิศาสตร์และกายภาพ ไม่อย่างนั้นยุค จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม คงไม่มีแนวคิดจะย้ายเมืองหลวง เช่นเดียวกันกับยุคคอมมิวนิสต์ถ้าไม่ดีจริง คงไม่ยึดเป็นฐานที่มั่น เราต้องสร้างแนวคิดใหม่ จุดให้เป็นประเด็นใหญ่ให้เป็นเรื่องทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ ไปเลย ใครไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ มีคำทำนายว่า กทม.จะจมบาดาลภายใน 10 ปี ดังนั้นต้องย้ายเมืองหลวงใหม่.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น