บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สู้แบบไพร่แล้วรวย-อู้ฟู่! สู้แบบอำมาตย์ต้องทำใจ สะเพร่ายอมผีดิบคืนชีพ ก่อนเป็น'ผีดูดขุมทรัพย์'





ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี กับ “ภาวะความเป็นผู้นำ” ของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” โดยเฉพาะกรณี “การจัดซื้อเรือดำน้ำ” ที่ตอนแรกบอกว่า “ผ่านเรียบร้อยค่ะ” แต่พอรู้ตัวว่า “พลาด” ก็ให้ทีมงานฯแจ้นมาแจ้งและข้อแก้ข่าวกับสื่อ
ซึ่งหลายสำนักข่าวก็ยอม “แก้ไข” ให้ตามความต้องการ แต่ก็ยังมีอีกหลายสำนักข่าวที่นำเสนอความจริง จึงได้เห็นเรื่องเปิ่นๆ ที่ว่า “เรือดำน้ำ” เป็น “เรือดันน้ำ” เพื่อแก้เขิน
นี่ยังไม่นับ “คำพูด” หรือการ “ประดิษฐ์คำ” อย่าง “บูรณาการ” หรือ “กรอบโครงสร้าง” ที่พูดจนผู้คนเริ่มเอือมระอา...โดยเฉพาะการบูรณาการเรื่องอุทกภัย ที่ประชาชนหลายจังหวัดกำลังเผชิญกับความทุกข์ยาก แสนสาหัส แต่กลายเป็นว่า “รัฐบาลนี้” กลับไม่มุ่งมั่นเอาจริง-เอาจังในการเข้าช่วยเหลือ
ถือเป็น “ทุกข์อันแสนสาหัส” ของ “ผู้คนที่เลือกรัฐบาลนี้...จริงๆ” เพราะเมื่อไปไล่เรียงดูรายจังหวัดที่ประสบเคราะห์กรรมในคราวนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นพื้นที่ในเขตที่เลือก “พรรคเพื่อไทย” และ “พรรคร่วมรัฐบาลอื่น” เป็นหลัก
จะเห็นว่า การนำเสนอของสื่อมวลชนในการรายงานความเดือดร้อนในแต่ละพื้นที่ บ่งบอกได้ชัดว่า มีอีกหลายพื้นที่ที่ “เจ้าหน้าที่รัฐ” เข้าไปไม่ถึง ปล่อยให้ “ชาวบ้าน” ต้องเผชิญชะตากรรมด้วยตัวเอง และต้องเสี่ยงกับภัยอันตรายรอบด้าน
หากมองอย่างมีใจเป็นธรรมแล้ว ก็คงต้องโทษไปถึง “รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ด้วย เพราะไม่ได้มีการวางแผนในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ เป็นรูปธรรม การแจ้งเตือนก็ไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ “ชาวบ้าน” ต้องเผชิญชะตากรรมที่ซ้ำๆ ซากๆ
จะเห็นว่า ผ่านมาประมาณ 8 สัปดาห์เศษของ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ผลงานที่เด่นชัดกับเป็นเรื่องการเมือง ที่ชงแต่ละเรื่อง-แต่ละราวออกมา ก็ล้วนแล้วแต่เอื้อประโยชน์ให้ “นักโทษทักษิณ ชินวัตร” คนเดียว...เต็ม รวมถึงการเอื้อประโยชน์และให้รางวัลตอบแทนแก่ “พวกสู้แล้วรวย” แบบไม่มีเหนียมอาย
อันเป็นการสะท้อนภาพชัดเจนว่า การต่อสู้ข้างถนนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ “หลายคน...อู้ฟู่” ร่ำรวยกันเป็นแถวๆ จนถูกขนานนามว่า “ไพร่ร้อยล้าน”
โดยเฉพาะกับรายของ “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ที่ประกาศมาตลอดว่า คือ “ไพร่ตัวพ่อ” ที่ขอสู้กับ “อำมาตย์” ที่แสดงบัญชีทรัพย์สินว่ามี 20 กว่าล้าน-รถยนต์ 3 คัน แต่ ที่น่าสนใจคือ รถคันหนึ่งที่มีป้ายทะเบียน ฮธ 777 กทม. มีมูลค่า 3 ล้านบาท ซื้อไว้เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2553 ซึ่งเป็นช่วงที่คนเสื้อแดงเริ่มชุมนุมก่อนมีการเผาบ้านเผาเมือง
หรืออย่าง “จตุพร พรหมพันธุ์” สมัยก่อนใครๆ ก็รู้ว่า “ยากไร้...เพียงใด” โดยเฉพาะคู่ปรับอย่าง “วัชระ เพชรทอง” จากพรรคประชาธิปัตย์ จะรู้เรื่องดีที่สุด แต่วันนี้มีทรัพย์สิน 8 ล้านบาท-ไม่มีหนี้สิน แถมมีลูก 3 คนจาก 3 ภรรยา เรียกได้ว่า “มีเสน่ห์-มีอันจะกิน” ไม่แพ้ “พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน” อดีตประธานคมช. ที่เคยถูกคนเสื้อแดงโจมตีว่า “มีหลายเมีย” เพราะคราวนี้ “บิ๊กบัง” ก็ยื่นบัญชีทรัพย์สินไว้ว่ามีมากถึง 61 ล้าน
จะเห็นว่า ภาพแห่งการต่อสู้ของ “พวกข้างถนน” ไม่ว่าจะสีไหน-ก๊วนใด ความสำเร็จสุดท้ายก็คือ “ร่ำรวย” กันถ้วนหน้า แต่คนที่ต้องรับกรรมคือ “ประชาชนที่มีใจต่อสู้ด้วยใจจริง” เพราะคนเหล่านี้ถ้าต้องล้มตาย ก็เป็นได้แค่ “วีรบุรุษ-วีรสตรี” หรือถ้าบาดเจ็บ ก็ต้องอยู่คอยรักษาแผลใจไปเรื่อยๆ
มองไปมองมา...กลายเป็นว่า การต่อสู้ทางการเมืองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คือการ “ผลัดกันมีอำนาจ-ผลัดกันกอบโกยผลประโยชน์” และหากถึงจุดที่สามารถตกลง-พูดคุยกันได้ ก็จะ “ประสานผลประโยชน์ร่วม” เพื่อตัวเองและพวกพ้อง
ถือเป็นการตอกย้ำ “คนในระบอบอำมาตย์-ตัวแทนอำมาตย์” ได้เป็นอย่างดีว่า “โลกเปลี่ยนไปมากแล้ว” กรอบวิธีคิดเดิมๆ-แนวทางการต่อสู้เดิมๆ ควร “เลิกคิด” ไปได้แล้ว เพราะบทเรียนในยุครัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์-รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เป็น “คำตอบในตัว” ว่า ทำไม “ระบอบทักษิณ” ถึงกลับมาเป็น “ผีดิบคืนชีพ” ได้อีก และคราวนี้เป็น “ผีดูดขุมทรัพย์” ที่ไม่กลัวอะไรอีกด้วย
อยากบอกชัดๆ อีกครั้งว่า การต่อสู้กับระบอบทักษิณในช่วงที่ผ่านมา มีคนทำงานจริงๆ ที่ทำด้วยใจบริสุทธิ์ ต้องเผชิญชะตากรรมมากมาย แต่ “คนที่มีศักยภาพบางคน” กลับไม่ให้การช่วยเหลือ ปล่อยให้เผชิญกับความลำบากในเรื่อง “คดีความ” ตามลำพัง อย่างนี้มันยุติธรรมแล้วหรือ???
เห็นแบบนี้แล้วมองเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากเตือน “ประชาชนคนไทย” ว่าไม่ควรไปหลงใหล ปลาบปลื้มกับสิ่งที่ถูก “ใครหลายคน” โฆษณาชวนเชื่อกันต่อไปเลย

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง