บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

โรงเรียนการเมือง


ปชป.จ่อเปิดโรงเรียนการเมืองพรุ่งนี้ ย้ำคนละทางกับนปช.-ชอบพรรคไหนก็ได้

วัน ที่29ส.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.สุราษฎร์ธานี และอดีตเลขาธิการพรรค เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (30ส.ค.) ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์จะมีพิธีเปิดโรงเรียนการเมือง โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคจะปาฐกถาปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ที่เป็นส.ส. ซึ่งลงทะเบียนไว้จำนวน 69 คน ส่วนเนื้อหาการเรียนนั้น จะเน้นทั้งการเมือง เศรษฐกิจ โดยเฉพาะกฎหมายมหาชนที่มีความสำคัญในเรื่องการตรวจสอบรัฐบาล การบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งกำลังทาบทามวิทยากรทั้งคนในพรรค อาทิ นายชวน หลีกภัย, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และอาจารย์มหาวิทยาลัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถาบันพัฒนบัณฑิตบริหารศาสตร์ (นิด้า) รวมถึงมหาวิทยาลัยเอกชนต่างๆ อาทิ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ, นายบรรเจิด สิงคเนติ และนายอมร จันทรสมบูรณ์ เป็นต้น

ทั้งนี้ นายสุเทพ ยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ใช่แนวทางเดียวกับโรงเรียนนปช. เพราะโรงเรียนนปช. ใช้วิธีการปลุกระดม สร้างความเชื่อในแนวทางของตัวเองเพื่อตอบสนองความต้องการทางการเมือง และใช้เรื่องความรุนแรง แต่โรงเรียนการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ สุภาพเรียบร้อย มั่นคง ปกป้องประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และแต่ละคนก็ไม่จำเป็นต้องมาชอบหรือผูกติดกับพรรคประชาธิปัตย์ จะชอบพรรคไหนก็ได้

อย่างไรก็ตาม โดยจะเรียนสัปดาห์ละ 2 วัน คือวันอังคาร เวลา 17.00-22.00 น. และวันพฤหัสฯ เวลา 19.00-22.00 น. รวมสัปดาห์ละ 7 ชั่วโมง หรือเรียนทั้งสิ้น 2 สมัยประชุม รวม 200 กว่าชั่วโมง


แล้วผมขอเอาความคิดเห็นของคนเสื้อแดงมาขยาย เพื่อจะได้พอรู้แนวทาง โรงเรียนการเมืองของคนเสื้อแดง คร่าวๆ เพื่อเปรียบเทียบ ครับ

 ความคิดเสื้อแดง 1 

อุตส่าห์ออกข่าวเสียใหญ่โตว่าจะเปิดโรงเรียนการเมืองแข่งกับ นปช. ผมก็นึกว่าน่ากลัวสำหรับฝายขวาที่จะเปิดหลักสูตรโรงเรียนการเมืองแบบ นปช. ขึ้นมาสู้กับอุดมการณ์ประชาธิปไตยของ นชป. ที่ประสพความสำเร็จมากมาย มีประชาชนสมัครเข้าอบรม มีส่วนร่วมกันมากมาย

พออ่านดูการเปิด โรงเรียนวันแรกของนายสุเทพฯ ผมนึกขำ นี่มันหลักสูตร ของสถาบันพระปกเกล้าของ บวรศักดิ์ นี่หว่า รุ่นแรกมี สส.เข้าเรียน 69 คน วิทยากรส่วนหนึ่งก็มีนายบวรศักดิ์ด้วย

หากเป็นแบบนี้ มันไม่ใช่โรงเรียนการเมือง แต่เป็น "หลักสูตรฝึออบรม" ไม่สามารถปลูกฝังอุดมการณ์ หรือแพร่ขยายได้

อัน ที่จริงโรงเรียนการเมืองนั้น มันต้องมี "ความตื่นตัวของมวลชนที่จะเข้าร่วมด้วย" แบบคนเสื้อแดง เรื่องหลักสูตรนั้นเป็นแค่ "สิ่งที่เสริมเข้ามา" แต่จริงๆ พื้นฐานคือ มวลชนเขาตื่นตัวต้องการ "การจัดตั้ง" ต้องการเครือข่ายในการต่อสู้ พวกเขาจึงเข้ามา

หากขาดสิ่งนี้ ต่อให้หลักสูตรเลอเลิศขนาดไหนมันก็ล้มเหลว

จาก ผลการเปิด "โรงเรียนการเมือง" ของพรรคประชาธิปไตยตามข่าวข้างล่างนี้ ผมว่า "มันตายแล้วตั้งแต่เปิด" ผมประเมินได้ว่า "มวลชนฝ่ายขวา" ยังไม่ได้มีการตื่นตัว ไม่สามารถ "ระดมสรรพกำลัง" ได้

โรงเรีนนการเมืองของ ปชป. ก็มุขแป๊กเรียบร้อย

การต่อสู้ทางการเมืองที่ ไม่มีอุดมการณ์ความตื่นตัวของมวลชนเป็นแรงขับ ก็ไม่มีทางไปรอด
 ความคิดเสื้อแดง 2 

จริง ๆ โรงเรียนการเมืองของ นปช. นั้น หลักสูตรก็ไม่ได้ดีเด่อะไร มากนัก หากเทียบในทางวิชาการ มีการ "อารัมภบท" ปัญหาทางการเมือง เชิงยุทธศาสตร์ของ อ.ธิดา ที่ผมเห็นว่าเป็นการปูภาพที่ดี การปราศรัยของคนอื่นๆ เช่นณัฐวุฒิ จตุพร ก็เป็นแค่การปราศรัยทางการเมืองเท่านั้น

แต่ "สาระสำคัญ" ของโรงเรียนการเมือง นปช. นั้นไม่ใช่หลักสูตร

แต่ เป็นการจัดตั้งเครือข่าย คนเสื้อแดงเขาอยากมาเจอหน้ากัน อยากมาจัดตั้งกลุ่มสำหรับเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมือง อยากคุยกัน อยากแลกเปลี่ยนทัศนะคติกัน อยากรู้จักกัน อยากจัดโครงสร้างองค์กร

เป็นความต้องการพื้นฐานจาก "มวลชน" เอง ไม่ใช่แกนนำไป ชักจูงเอามา

แต่ มวลชนในท้องถิ่นต้องรวมตัวกันก่อนแล้ว "เรียกร้อง" ให้ นปช. ส่วนกลางไปช่วยเหลือในการจัดตั้ง มันจึงเกิดผลอย่างรวดเร็ว หากขาดความตื่นตัวทางการเมืองของ "คนเสื้อแดง" ต่อให้แกนนำ นปช.เก่งขนาดไหน ก็ไม่มีทางทำให้ โรงเรียนการเมือง เป็นอาวุธทางมวลชนที่มีประสิทธิภาพได้

แกน นำ นปช. จึงเป็นแค่ส่วนเสริม แต่ไม่ใช่ "สาเหตุหลัก" ที่ทำให้โรงเรียนการเมืองเข็มแข็ง ได้ผล (แต่ไม่มีแกนนำไปก็ไม่ได้ เพราะมวลชนก็ต้องการการประทับตรา ยอมรับ)

ดูผลการเปิดโรงเรียนการ เมืองของพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ผมจึงไม่คิดว่าเป็นยุทธวิธีน่ากลัวอะไร ประเมินสภาพความตื่นตัวของฝ่ายโน้นได้เลยว่า "ตายสนิท" แล้ว การอบรมแบบนี้จะขยายเครือข่ายได้อย่างไร อีกกีปีจึงจะลงไปถึงหมู่บ้าน

ในขณะที่ นปช. เขาขยายไปถึงตำบล อำเภอ จังหวัด จะขึ้นมาระดับภาค และจะเปิด "สมัชชาคนเสื้อแดงแห่งชาติ" ได้อยู่แล้ว

หากเปิด "สมัชชาคนเสื้อแดงแห่งชาติ" ได้สำเร็จครั้งแรก ผมถือว่าการจัดตั้งของ นปช. ได้ขึ้นสู่ระดับสูงสุดแล้ว 
 ความคิดเห็นเสื้อแดง 3

ผมก็ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่า โรงเรียนการเมืองของปชป เขาจะจัดหลักสูตรกันอีท่าใหน  ครือจะไปงัดเอาหลักสูตรลสชบ. ประเภท คอมมิวนิสต์ คือยักษ์มารกินวัวกินควาย สึกพระไปไถนา เอานักศึกษาไปปลูกข้าว  ถ้าจะอบรมกันแบบนั้น ผมว่าจะแอบไปสมัครซักกะหน่อย คือดูท่าแล้วคงจะฮากว่าไปดูเดี่ยว9ของ โน้ส อุดม แน่ๆ

อะไรที่ล้า หลัง และพ้นสมัยไปแล้ว พยายามเอามาปัดฝุ่นขัดสีฉวีวรรณ มันก็ได้เป็นเพียงสิ่งลวงตา ก็จะตอบสนองได้แต่คนที่โหยหาความหลัง อย่างพวกชอบไปตลาดร้อยปี ก็แค่นั้น

แต่ถามว่าปัจจุบันสังคมโลก และสังคมไทย(ส่วนหนึ่งด้วย) ที่กำลังมุ่งหน้าไปสู่เสรีนิยม มุ่งไปสู่การกระจายอำนาจและลดทอนบทบาทอำนาจรัฐลงทุกวันๆ ความพยายามย้อนความหลังอย่างนั้น ก็คงเป็นได้แค่ของแปลก หรือถ้าพยายามมากไปจนเกินจริง ก็จะกลายเป็นของน่าขบขัน

จริงๆ โรงเรียน นปช มันก็ไม่ได้มีหลักสูตรเนื้อหาอะไรใหม่สักเท่าไหร่ วิทยากรนั้นก็พูดในสิ่งที่ผมก็เชื่อว่าแดงเข้มทั้งหลายนั้น รู้และเข้าใจอยู่แล้วล่ะ  แต่บังเอิญสิ่งที่พูดในโรงเรียน มันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของทุกคน ก็ได้โอกาสเอามาเรียงร้อยให้ชัดเจนกระจ่างแจ้งขึ้นเท่านั้น เวลาเอาไปเล่าต่อจะได้ไม่ติดขัด

จัดอีกก็ดีครับ ถ้าจะให้ดี จัดเป็นสมัชชาเลย ยิ่งดีใหญ่ ส่วนโรงเรียนที่สอนอุดมการณ์ถอยหลัง (จริงๆมันคือหลักสูตร สส ใหม่ อย่างที่เพื่อไทยก็อบรมไปแล้ว) ไม่ต้องไปกังวล


ความคิดเสื้อแดงที่ 4

555 ก็ได้หลักสูตรที่เอามาลงนั่นแหละครับคุณ PKT กลายเป็นหลักสูตรของสถาบันพระปกเกล้าไป อาจมีประโยชน์ต่อนักการเมือง แต่มันไม่ใช่โรงเรียนการเมืองในความหมาย "การจัดตั้ง" แบบ นปช. ครับ

คือ ปชป. นี่ลอกเลียนอะไรก็ไม่เคยได้ "หัวใจ" ของสิ่งที่ลอกเลียนมา ลอกเรียนประชานิยมแบบทักษิณก็เอาแต่รูปแบบมากลายเป็น "ประชาสงเคราะห์" มากกว่าประชานิยม

ผมไม่ตกใจอะไรนะครับ หาก ปชป. สามารถทำ "โรงเรียนการเมือง" ได้มีประสิทธิภาพพอๆ กับ นปช. เพราะหากทำได้ก็ถือว่าเป็นการยกระดับของคนอีกฝากหนึ่งให้มีจิตสำนึกทางการ เมือง จะตรงข้ามกับเสื้อแดงก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะสุดท้ายก็จะเกิดระบบแบบสองพรรค สองอุดมการณ์ ซึ่งจะทำให้ระบอบประชาธิปไตยเข็มแข็ง ถ่วงดุลกันได้

แต่จัดแบบนี้เป็นการอบรมไป มีประโยชน์ตรงความรู้ แต่ไม่ใช่ การจัดตั้งทางการเมือง



       จากความคิดเห็นข้างต้น คงทำให้เห็นแนวทางของ นปช. กันบ้างนะครับ ว่าทำไมถึงขยายตัวและเข้าลึกถึงใจชาวบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพนัก   ต้องขอยอมรับ ทักษิณ เก่งการตลาดจริงๆครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง