ในหลวงทรงตั้ง "มูลนิธิน้ำ" แนะปลูกพืชแก้ดินถล่ม
นั่นคือพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (หน้าการเมือง) เช้าวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ เป็นข่าวดีสำหรับชาวไทยทั้งประเทศ ที่ผมเห็นแล้วรู้สึกปลื้มปีติอย่างยิ่ง จนอดใจที่จะนำมาบอกกล่าวท่านผู้อ่านไม่ได้ รายละเอียดของข่าวมีว่า
0 0 0
เย็นวานนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช
พระ ราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการกิตติมศักดิ์สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร นำ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ และผู้เกี่ยวข้อง เฝ้าฯทูลเกล้าฯถวายเงิน เป็นทุนประเดิมสำหรับการก่อตั้งมูลนิธิน้ำ
ซึ่งสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การ มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเพื่อสนองพระราชดำริเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ เนื่องในโอกาส งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหา มงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554
นับ ตั้งแต่ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ทรงครองสิริราชสมบัติ ได้ทรงงานเรื่องน้ำมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยทรงห่วงใยพสกนิกรที่ประสบปัญหาเรื่องน้ำ ได้แก่ การขาดแคลนน้ำ ปัญหาน้ำท่วม น้ำเน่าเสีย เป็นต้น
ทั้ง ทรงห่วงใยการบริหารจัดการน้ำ ตลอดจนทรงห่วงสถานการณ์น้ำที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทรงศึกษาระบบการจัดการน้ำที่เหมาะสมกับประเทศไทยด้วยพระองค์เอง เช่น โครงการแก้มลิง โครงการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีทางธรรมชาติ
และ ทรงมีแนวพระราชดำริต่าง ๆ จำนวนมาก เพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหาเกี่ยวกับน้ำที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ ของราษฎร กล่าวได้ว่า ความสำเร็จ ความรู้ และกลวิธีต่าง ๆ ที่ได้จาการทรงศึกษา ค้นคว้า พัฒนา และทดลอง หากนำมารวบรวมบันทึกและเผยแพร่ให้ประชาชนนำไปใช้เป็นหลักในการแก้ไขปัญหา พัฒนา บริหารน้ำของท้องถิ่น และของประเทศจะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง
ในการนี้ได้มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับการเลือกชนิดพืชที่จะปลูกในพื้นที่ภูเขา เพื่อป้องกันการพังทลายของดินว่า
"ถล่ม ลงมาแล้วทำให้หมู่บ้าน ทางหมู่บ้านไปหมด ที่มาทูลตั้งแต่ต้น นี่มันเป็นปัญหาที่หนักมาก เพราะว่าทำให้คนเสียชีวิต และเสียหมู่บ้านเป็นอย่างมาก มาเร็วๆ ที่กระบี่ ก็มีถล่มอย่างนี้ แต่ที่สตูลหนักมาก ที่กระบี่ก็ถล่มลงมา ทำให้เสียชีวิตไปหลาย
ถ้า โครงการอย่างนี้แล้วก็ กลับทำให้มีความเสียหาย น่ากลัว อย่างที่สตูล เป็นเพราะว่าไปปลูกยาง ก็ดูท่าทางยางเป็นต้นที่โตเร็ว ที่แข็งแรง มันโตเร็วจริงๆ แต่ว่าทำให้มีหวังเป็นถล่ม ดินถล่มมากมาย
ที่ ภาคอีสานไปปลูกยาง นึกว่าเป็นผลที่ดี แต่ก็ดินถล่มเยอะ ที่ภาคเหนือก็มี เฉลี่ยการดินถล่ม จะทำให้ชาวบ้านเสียหายมาก นี่ก็ต้องปลูกรักษาให้ดี เรื่องต้นที่จะลง แต่ถ้าต้น ลงต้น ที่ต้นไม้ที่มีรากแก้ว ที่ก็โตไม่เร็ว โตช้า เพราะอาจจะมีผลตรงข้ามเหมือนกัน
เพราะ การปลูกต้นไม้พืช หรือพืชอะไรต้องเลือก เมื่ออย่างตะกี้พูดถึงว่า เอาหญ้าแฝกลง รากแฝกนี้ลงลึก เหมือนเป็นรากแก้ว ก็อาจจะแก้ได้ แต่ไม่ทราบว่า จะมีผลหรือเปล่า ใส่หญ้าแฝกเป็นแนวอย่างไร หรือต้นไม้ที่เป็นต้นไม้มีรากแก้ว หรือต้นไม้ที่โตเร็ว ต้องสลับกันดีๆ อาจจะแก้ปัญหาเรื่องดินถล่ม"
0 0 0
นั่น คือ ข่าวดีสำหรับชาวไทยทั้งชาติ ที่ผมเรียนให้ทราบว่า อ่านแล้วรู้สึกปลิ้มปีติและรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้
จำ ได้ว่า ผมเคยรายงานให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบถึง พระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวงทรงห่วงใยพสกนิกรที่ต้องสัญจรไปมาในย่านพรานนก และโรงพยาบาลศิริราช มาแล้วครั้งหนึ่งในหัวข้อเรื่อง
โอ้... ล้นเกล้าฯของชาวไทย แม้พระองค์จักทรงพระประชวร ก็ยังทรงงานเพื่อทวยราษฎร์มิหยุดหย่อน.. ขอพระองค์ทรงพระเจริญ พระพุทธเจ้าข้า” รายละเอียดอยู่ใน Entry นี้
ในวันนั้น พล.ท.นันทเดช (ขออนุญาตที่เอ่ยนาม) ได้แสดงกรุณาความเห็นเสมือนหนึ่งจะให้เรา ๆ ท่าน ๆ มองอีกมุมหนึ่งว่า
“ผมดีใจไปอีกทางหนึ่งครับ การทรงงานครั้งนี้ แสดงว่าทรงแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมมาก ....ทรงพระเจริญ”
วันนี้เมื่ออ่านข่าวนี้จบ ผมจึงมีความเห็นเหมือนที่ พล.ท.นันทเดช แสดงไว้ครับ
การทรงงานครั้งนี้ แสดงว่าทรงแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมมาก..
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ พระพุทธเจ้าข้า
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น