บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Prof.Crane Brinton ได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับผลที่ตามมาเมื่อสิ้นสุดการปฏิว ัติ รัฐประหาร โดย ดร.ไก่ Tanond

Prof.Crane Brinton

ได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับผลที่ตามมาเมื่อสิ้นสุดการปฏิวัติ รัฐประหาร ไว้อย่างน่าสนใจว่า “ในท้ายสุด การปฏิวัติเกือบทั้งสิ้นก็จบลง ด้วยการวกกลับไปสู่ที่ที่มันเริ่มต้น มีแนวคิดใหม่ๆเกิดขึ้นบ้าง ผู้คนในโครงสร้างอำนาจเปลี่ยนมือไปบ้างเล็กน้อย ควบคู่ไปกับ การปฏิรูปในส่วนโน้นส่วนนี้ และที่สำคัญคือการตัดทิ้งส่วนที่เลวร้ายที่สุดของระบบเก่า นั้นออกไป หากแต่ว่า สถานภาพของชนชั้นปกครองนั้นกลับไม่ได้เปลี่ยนตามไป คงอยู่และเป็นไปตามเดิม ในทันทีที่การหยิบฉวยอำนาจได้เริ่มขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง”

กรอบ แนวคิดทฤษฏีข้างต้นนี้ หากได้เข้าใจกันแล้ว ผมเชื่อมั่นว่า สามารถนำใช้เพื่ออธิบายขยายความ การเมืองการปกครองของบ้านเรา นับแต่ช่วงที่เกิดการรัฐประหาร 19 กันยา 2549 ผ่านเลยมาจนถึงการเลือกตั้ง เมื่อปลายปี2551และสำหรับปี2554 ที่กำลังลุ้นกันตัวโก่งได้เป็นอย่างดี ว่าทำไม "ระบอบทักษิณ" ถึงไม่ยอมตาย ไม่แผ่วปลาย กระทั่งไม่ยอมล่มสลายไป ได้ดังนี้ครับ -

1.จากทฤษฏีข้างต้น พิสูจน์ให้เราได้เห็นแล้วว่า ..ถึงแม้จะมีการตัดส่วนที่เลวร้ายที่สุดของอำนาจเก่า ระบบเก่าที่ก็คือทักษิณนั้นออกไปจากการรัฐประหาร ทว่าระบบการเมืองและวัฒนธรรมทางการเมือง รวมถึงชนชั้นปกครองหรือนักการเมือง ที่จะเข้าไปสิงสถิตย์กันในระบบ และนำใช้วัฒนธรรมทางการเมืองของทุกๆฝ่าย รวมทั้งตัวแทนของทักษิณด้วย ก็ยังครองสถานะที่เคยมีและเป็นมาเช่นเดิม เช่นนี้แล้วเมื่อการเลือกตั้งเมื่อ 2551 เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง หลายฝ่ายจึงทำนายทายทักกันว่า น่าจะผ่านพ้นยุคสมัยของทักษิณกันไปแล้ว แต่การก็หาได้เป็นดังว่า ขนาดทักษิณไปแล้ว บ้านเลขที่111ไปแล้ว พรรคไทยรักไทยไปแล้ว พรรคใหม่และองคาพยพของทักษิณ ทำไมยังสามารถกลับมามีเสียงข้างมากในสภาได้อีก?

2.คำตอบของข้อ1. ก็คือ เพราะระบบ วัฒนธรรมทางการเมือง ยังคงถูกปล่อยให้อยู่ตามเดิม และเมื่อ2สิ่งนี้ยังดำรงอยู่ "คน"จึงไม่ใช่อุปสรรค จะใส่ใครเข้าไปแทนก็ย่อมทดแทนกันได้ ตราบใดที่ 2 สิ่งนี้ยังเป็น Process ที่พร้อมจะให้กำเนิด Output แบบเดิมๆ เช่นนี้แล้ว สำหรับอนาคตการเมืองข้างหน้า ขอให้ตระหนักถึงจุดให้มากเข้าไว้ ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เช่นฉบับเมื่อครั้งปี50 ที่คณะรัฐประหารหยิบจับขึ้นมาทำนั้น ไม่เวิร์ค แล้วก็ไม่เคยเวิร์คเลย เพราะเป็นการเกาไม่ถูกที่คัน มิหนำซ้ำยังเป็นการทำให้เสียเวลา เสียโอกาส และเสียความรู้สึกของผู้คนในชาติอีกต่างหาก

3. ทำไมรัฐธรรมนูญปี50จึงไม่เวิร์ค? โดยหัวใจสำคัญก็เพราะ เป็นการแก้แต่เพียงเฉพาะวิธีการทางการเมือง ในบางเรื่องบางประเด็นที่ไม่ได้แตะไปที่หัวใจสำคัญ เช่น ของปี40 มีลักษณะของ Strong Executive ให้อำนาจฝ่ายบริหารมาก / พยายามให้รัฐบาลมีความมั่นคง ส่วนของปี 50 ก็เพียงแก้ให้การเลือกตั้งนั้นยุ่งยากขึ้น จะได้ซื้อเสียงกันยากขึ้น อำนาจจะได้ไม่กระจุกตัวอีก เพื่อคลาย strong executiveนี้ลง สาระสำคัญสำหรับผมเองมีอยู่เท่าเนี่ย

และหากนำทฤษฏีระบบ input - process - output มาใช้เทียบเคียง เราจะพบว่า ตัว input ที่หมายรวมถึงมาตรการ และข้อกำหนดที่เป็นปราการด่านแรกต่างๆ ที่"ควรจะมี" ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง ไม่ได้ถูกจับต้องเพื่อสกัดกั้น เพื่อสกรีน การเข้าสู่อำนาจแบบเดิมๆกันเลย กระทั่งเข้าสู่อำนาจไปแล้ว การเข้าถึงตำแหน่งรัฐมนตรีก็มิได้ มีข้อกำหนดที่เหมาะสมไว้คอยจำกัด "นายทุน"เอาไว้ด้วย เช่นนี้แล้วคนของระบบทักษิณ จึงได้เฮโลเข้ามากันเป็นฝูงใหญ่อย่างที่หลายคนไม่คาดคิด กัน ผมเห็นว่ามันเสียของนะรัฐประหารปี49นี่ ผมถึงได้เน้นย้ำเสมอว่า หากจะเปลี่ยนกันครั้งหน้า มันต้องมีพิมพ์เขียว ออกแบบตัวบ้านตัวอาคารและระบบสาธารณูปโภค กันไว้ก่อนมิเช่นนั้นแล้ว ก็คงเสียเปล่าอีกเหมือนเดิมๆ

4. ทำไมแม้กระทั่งมาถึงการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว คนของระบอบทักษิณ ที่ได้ผนวกรวมเอาพวกเสื้อแดงล้มเจ้าเข้าไปด้วย จึงยังดูจะมีภาษีกว่าพรรคอื่นๆโดยเฉพาะปชป.เอง อันนี้ตอบไม่ยากเลย ก้เพราะการเลือกตั้งเมื่อปี51 กับ 54นี้ มันไม่ได้มีปัจจัยนำ ปัจจัยแวดล้อมใดๆที่แตกต่างกันไปมากนัก และยิ่งปชป.ที่อยู่มาในอำนาจ ดันไปเอื้อไปอ่อนข้อให้ "การเผาบ้านเผาเมืองและการล้มเจ้า" ได้กลับกลายเป็นสิ่ง ที่พอจะปรองดองกันได้แบบสุดแสนจะทุเรศต่อความรู้สึกของประชาชนกันเช่นนี้ เห็นทีประวัติศาสตร์ปี51 จะกลับมาซ้ำรอยเดิมอีกเป็นแน่ ถ้าๆๆๆๆๆๆ

5. "ประชาชนผู้ใต้ปกครอง ยังปล่อยให้การเมืองเป็นไปตามยถากรรมเดิมๆของมัน ใครให้เราไปเลือกตั้งก็ต้องไป ไปแล้วเลือกกันแบบเดิมๆต่อไป" ยังเป็นความคิดที่พวกเราคุ้นเคย เคยชิน และยินดีนำปฏิบัติ รับประกันได้หายนะมาเยือนแน่

แต่ยังดีนะครับ ที่เรามีแกนนำของภาคประชาชนอันทรงพลัง ที่คอยขับเคลื่อนกดดันให้รัฐแก้ไขในสิ่งผิดมาอย่างต่อเนื่อง ได้นำการรณรงค์โหวตโน นี้มาใช้เป็นไม้ตาย เพื่อต่อกรกับผลของการเลือกตั้งในครั้งนี้ ที่ก็จะสกปรก ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และที่สำคัญสุดจะขาดไร้ซึ่ง "ความชอบธรรมทางการเมือง" อันเป็นการสะท้อนถึงความ"ไม่"พึงพอใจ และความ"ไม่"ต้องการที่จะดำรงไว้ซึ่งระบบการเมืองน้ำเน่า แบบเดิมๆกันอีกต่อไป

ถ้า เราไม่อยากให้ประวัติศาสตร์การเลือกตั้งปี51 กลับมาซ้ำรอยเดิมในปี 54 นี้ ก็มีเพียงหนทางเดียวที่จะใช้ปฏิเสธได้ นั่นคือ การร่วมมือร่วมใจกันทั้งชาติ "โหวตโน" บอกพวกนักการเมืองน้ำเน่ากันไปว่า ประชาชนผู้มีสิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยมนี้ จะไม่ทน ไม่สมยอม จะไม่ปล่อยให้ การเมืองเป็นเรื่องของนักการเมืองอีกต่อไปแล้ว นับแต่นี้ไป การเมืองจะต้องเป็นเรื่องของประชาชน โดยพวกเราจะลิขิตขีดเส้นให้นักการเมืองเดินเอง ด้วยฉันทามติ ด้วยสัญญาประชาชนคมที่พวกเราจะมีร่วมกัน เพื่อแก้ไขในสิ่งผิดที่นักการเมืองได้กระทำมา และเดินหน้าไปเพื่อการเปลี่ยนแปลงไปอย่างพร้อมเพรียงกัน ทุกผู้ทุกนาม

มาร่วมกันเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่กันนะครับ CHANGE FOR GOOD!..FOR THE BETTER AND FOREVER!

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง