บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

จิกแม้วไร้สำนึกปุระชัยหนีโทษ


“เหลิม” ดวลฝีปากนักข่าวเดือด เหลังเจอดักคอ พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ “เพื่อแม้ว” ตะแบงสีข้างอ้างถูกกฎหมายอย่างเดียว  เมินเจอม็อบต้าน แถมท้าอยากต้านก็ต้านไป อ้างไม่เคยแจกร่างอภัยโทษฯ แค่รวบรวมข้อมูลย้อนหลัง อึ้งกิมกี่เจอปุจฉาครม.ทำระคายเคืองฯ ฮึ่มสื่อถามระวังติดคุก จี้ทีวีดาวเทียมออนไลน์ทุกคำพูดหวังมัดตัวคนถาม”ปุ” จิก “แม้ว” ควรเป็นสุภาพบุรุษ ชี้คนหนีคดีถือไม่สำนึก-ไม่ควรอภัยโทษ ด้าน”หมอตุลย์ย”ื่นค้านพ.ร.ฎ.ต่อกฤษฎีกาแล้ว
วานนี้ (17 พ.ย.) ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้าย จะตั้งกระทู้ถามสดถึงการประชุมลับของคณะรัฐมนตรีท(ครม.) ที่ี่มีการพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ขอพระราชทานอภัยโทษ ที่อาจมีเนื้อหาเอื้อประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตนพยายามชี้แจงให้มากที่สุด แต่ว่าคงลงรายละเอียดไม่ได้ เพราะหากชี้แจงแล้วสุดท้ายบทสรุปไม่เป็นไปตามที่ตนชี้แจง ก็จะเกิดความเสียหายกับทุกภาคส่วน แต่ขอยืนยันว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย และไม่ทำอะไรเพื่อคนๆเดียวโดยเด็ดขาด กรอบกฎหมายเป็นอย่างไร ต้องเป็นไปตามนั้น แนวคิดและนโยบายของแต่ละรัฐบาลนั้น มีความแตกต่างกัน นโยบายของพรรคการเมืองก็แตกต่างกัน อย่างกรณีนโยบายการรับจำนำหรือประกันราคาข้าวก็เห็นแตกต่างกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพูดเช่นนี้เท่ากับว่าการคืนความเป็นธรรม หรือการพา พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้าน เป็นนโยบายของรัฐบาลนี้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขอไม่พูดรายละเอียด เพราะใน พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ ไม่ได้กำหนดตัวบุคคล หากมีกฎหมายแล้ว ก็ต้องประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา คงจะพูดก่อนไม่ได้ ขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ ส่วนการที่มีการวิจารณ์รัฐบาลกระทำระคายเบื้องพระยุคลบาทนั้น ตนขอไม่แสดงความเห็นเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องไม่บังควร แต่ยืนยันว่ารัฐบาลทำภายใต้กรอบของกฎหมาย
0 0…เหลิม”อ้างทำถูกกฎหมายทุกขั้นตอน
ต่อข้อถามว่า ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.เฉลิม เคยออกเอกสารเกี่ยวกับขั้นตอนการขอพระราชทานอภัยโทษ ถึงขณะนี้ยังยืนยันขั้นตอนตามเอกสารเดิมหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่เคยจัดทำเอกสารดังกล่าว คงเป็นความเข้าใจผิด อย่างไรก็ตามเอกสารดังกล่าว เป็นเพียงการรวบรวม พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯของปี 50 และปี 53มาบอกนักข่าว ไม่ใช่เป็นเอกสารของตน ซึ่งยอมรับว่าหลักการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ของทุกรัฐบาล ล้วนจะแตกต่างกัน เพราะมีแนวคิดที่ไม่เหมือนกัน บางรัฐบาลก ็เขียนกฎเกณฑ์อยู่เหนือกฎหมาย
สำหรับรัฐบาลชุดนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการมากว่า 20 คน ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องที่รัฐบาลทำเอง เป็นเรื่องที่กระทรวงยุติธรรม เสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม. เพื่อดำเนินการต่อ ซึ่งหาก ครม.อนุมัติแล้ว จะส่งไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาความถูกต้องอีกครั้ง หากกฤษฎีกาเห็นว่าไม่ผิดกฎหมาย ก็จะส่งเรื่องเพื่อนำทูลเกล้า ฯ ซึ่งต้องผ่านการพิจารณาขององคมนตรีอีกด้วย
เมื่อถามว่า เมื่อเป็นการเสนอเรื่องโดยกระทรวงยุติธรรม เหตุใดจึงบอกว่าไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า อะไรก็ตามที่ไม่ผิดกฎหมาย ตนกล้าทำ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังไม่แล้วเสร็จ เมื่อถามย้ำว่ามีความกังวลหรือไม่ว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า น้ำผึ้งไม่ได้มีหยดเดียว แต่น้ำผึ้งมีเป็นขวด ตนเชื่อว่าไม่มีเรื่องอะไร พวกที่ไม่เข้าใจ ก็ชี้แจงเมื่อเรื่องเสร็จก็จะเรียบร้อยทั้งหมด ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องเปิดเผย เพราะเรื่องยังไม่แล้วเสร็จ
00…คุยจบดร.กฎหมายจึงรับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์สันติ ในฐานะอดีต รมว.ยุติธรรม สมยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ไม่ถือเป็นความลับ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นักการเมืองจะเห็นเหมือนกันได้อย่างไร  หากเห็นเหมือนกันตอนเลือกตั้งก็คงได้คะแนนเท่ากันไปแล้ว
เมื่อถามต่อว่า หากประเด็นเรื่องออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ไม่ใช่ความลับ แล้วมีเหตุผลใดท ี่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องลับเพราะยังไม่แล้วเสร็จ การจะเป็นความลับหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะรัฐมนตรี ไม่มีอะไรพิเศษ บางคนสงสัยว่าเหตุใดตนต้องรับผิดชอบในเรื่องการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ นั้น เป็นเพราะตนจบดอกเตอร์ทางกฎหมาย ส่วนนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ก็ชำนาญด้านรัฐศาสตร์ สำหรับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ก็เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ ซึ่งครั้งนี้อาจจะไม่ใช่กณรีพิเศษเพียงครั้งเดียว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ตามปกติการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ จะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หากพูดอะไรไปก็เกรงว่าจะกระทบใจนักข่าว ในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)  พิจารณา 311 วาระ ในวันเดียวยังสามารถทำได้ และหากทำเหมือนกันทุกเรื่อง พรรคประชาธิปัตย์คงไม่แพ้เลือกตั้ง และพรรคเพื่อไทย(พท.) คงไม่ได้มาถึง 265 ที่นั่ง
ต่อข้อถามถึงความเป็นห่วงในฐานะคณะรัฐมนตรี ว่าจะเกิดความขัดแย้งในหมู่ประชาชน และมีการออกมาชุมนุมกันอีกครั้ง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เชื่อว่าคงไม่มี อีกอย่างส่วนตัวไม่เคยมองโลกในแง่ร้าย ในเมื่อรัฐบาลทำตามกฎหมาย ปัญหาก็จะไม่เกิดขึ้น แต่หากเป็นเรื่องที่ทำผิดกฎหมายตนคงไม่เอาด้วย ส่วนการเคลื่อนไหวของนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดรที่จะมีการรวบรวมมวลชนนั้น ตนไม่ทราบ และไม่เคยเคลื่อนไหวกับกลุ่มคนเสื้อแดง จึงไม่รู้ว่าเป็นการระดมมวลชนแบบใด
00…ควันออกหูปัดตอบเจอสื่อต้อน
เมื่อถามว่า การถวายคำแนะนำถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการรับรองของคณะรัฐมนตรีจะเป็นอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย เมื่อถามย้ำอีกว่า ในส่วนของความเหมาะสมและเหตุผลอ ที่อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งของบ้านเมืองอยู่ในขอบข่าย ที่ต้องนำมาพิจารณาหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่มีอะไรขัดแย้ง ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนที่มีการเคลื่อนไหวของสังคมออนไลน์ หรือกลุ่มต่างๆ เพื่อต่อต้านนั้น ถือเป็นสิทธิ สามารถทำได้ เพราะรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยต้องรับฟังความเห็นทุกภาคส่วน
เมื่อถามต่อว่า หากมีความมั่นใจว่าเป็นเรื่องที่ทำถูกกฎหมายแล้ว เหตุใดจึงไม่สามารถเปิดเผยได้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ยังไม่ถึงเวลาแม่คุณทูนหัว”
ผู้สื่อถามว่า หากทำเช่นนี้มองหรือไม่ว่าจะเป็นการกดดันองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่าจะต้องทำตามในสิ่งที่มีการถวายคำแนะนำ รองนายกฯ กล่าวตอบว่า “ผมไม่ตอบ เพราะหากยืนสัมภาษณ์ต่อไป คุณสมจิตร (นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวช่อง 7 ซึ่งเป็นผู้ถาม) อาจจะเป็นผู้ที่ติดคุก”
สำหรับกรณีที่มีการวิจารณ์ว่าหลักเกณฑ์ใน พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ที่ออกในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังมีการระบุว่าผู้ที่ได้รับการอภัยโทษ ต้องมาอยู่ในสถานที่คุมขังก่อน นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เรื่องนี้ตนสามารถตอบได้ซ้ำไปซ้ำมาว่า จะทำได้ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย รวมทั้งขอปฏิเสธด้วยว่าเหตุที่ไม่เปิดเผยเรื่องออกมาตอนนี้ ไม่ได้กังวลว่าสังคม จะออกมาต่อต้าน เพราะไม่มีความจริงใดท ี่จะปิดบังเป็นความลับได้ตลอด ส่วนใครจะออกมาต่อต้านก็ขอให้ต้านไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเกิดความขัดแย้งขึ้นในช่วงวันมหามงคล คณะรัฐมนตรีจะแสดงความรับผิดชอบหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวตอบว่า “คุณสมจิตรเป็นนักข่าวมานาน ผมไม่อยากต่อว่า อะไรที่มันเปิดไม่ได้ ผมก็ยังไม่เปิด คุณถามผมไม่จนหรอก คำถามนี้เป็นสิ่งที่ไม่น่าถาม รู้สึกว่าคุณกล้าจริงๆเลย”
เมื่อถามอีกว่า คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะได้กลับมาภายในปีนี้ ตามที่พรรคเพื่อไทยได้เคยหาเสียงไว้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ตนปราศรัยในช่วงเลือกตั้ง ที่เมื่อไปในพื้นที่ที่มีคนรัก พ.ต.ท.ทักษิณ หากไม่พูดถึง จะเป็นไปได้อย่างไร ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้กลับมาหรือไม่ ตนไม่ทราบ เพราะว่า พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ยังไม่ออก
0…ฉุนโดนถามความรับผิดชอบหาเสียง
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หากพูดเช่นนี้แล้ว ความรับผิดชอบของนักการเมืองอ ในการปราศรัยหาเสียงอยู่ที่ใด ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม หลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวถึงกรณีผู้เสียชีวิต 91 รายจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค.53 ในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ โดยอ้างว่า เรื่องนี้ยังไม่มีคนตายเลย เหตุใดจึงพยายาม
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้มีโอกาสเข้าร่วมงานฉลองมงคลสมรสของ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรสาวหรือไม่ ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “แล้วคุณจะไปพาดพิงอะไรเรื่องครอบครัวคนอื่น ซึ่งผมคงตอบคำถามแทนไม่ได้ มีเคเบิลทีวีช่องไหน ขอให้นำคำพูดของคุณสมจิตรไปออกทุกคำพูดหน่อย”  เมื่อกล่าวจบ ร.ต.อ.เฉลิมได้เดินออกจากวงล้อมสื่อมวลชน โดยกล่าวทิ้งท้ายว่า ตนไม่เคยหนีนักข่าว เพราะเป็นคนชอบพูด แต่ที่ต้องไปวันนี้ เพราะกลัวมีคนติดคุก
ผู้สื่อข่าวรายงานในระหว่างการให้สัมภาษณ์นั้น บรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด และมีการตอบโต้กันไปมาระหว่าง ร.ต.อ.เฉลิม กับผู้สื่อข่าวอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะคำถามถึงการเอื้อประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ในการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ครั้งนี้ รวมไปถึงประเด็นที่เกี่ยวกับการใช้พระราชอำนาจ ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิมได้พยายามหลีกเลี่ยง โดยอ้างว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร และอาจเข้าข่ายการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รวมไปถึงพยายามตักเตือนผู้สื่อข่าวว่า บางคำถาม มีความไม่เหมาะสม
0…”ปุ” แีคนหนีคดีถือไม่สำนึกไม่ควรอภัยโทษ
ที่รัฐสภา ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์สันติ กล่าวถึงกรณีทดังกล่าว ว่า ตนยังไม่เห็นรายละเอียด เรื่องนี้ จึงไม่สามารถพูดได้มากนัก แต่ถ้าเป็นการทำเพื่อเป็นบุญกุศลก ็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี กรณีนี้นั้นทาง ครม.สามารถถวายความคิดเห็น โดยไม่ต้องผ่านที่ประชุมสภาฯ แต่ในเรื่องดังกล่าว เป็นประเด็นที่กระทบกับคนหมู่มาก จึงน่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดและชี้แจงต่อประชาชนให้ทราบ และไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ต้องปกปิดเป็นความลับแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม  ระบุว่าไม่สามารถเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะเป็นความลับนั้น ตนไม่ทราบถึงการออกมาให้สัมภาษณ์เช่นนั้นของ ร.ต.อ.เฉลิม แต่ถ้าเรื่องนี้เป็นการทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ก็น่าจะมีการเปิดเผยได้ ด้วยหลักการแล้ว ต้องมีการพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป หากจะมีการขอพระราชทานอภัยโทษ โดยที่ยังไม่ได้รับโทษ ก็ต้องเป็นการใช้ดุลพินิจ แต่ส่วนตัวคิดว่าเรื่องดังกล่าวต ้องทำแบบโปร่งใส ไม่หลบหนี เพราะหากยังหลบหนีก็ถือว่าไม่สำนึกผิด
“พ.ต.ท.ทักษิณเป็นบุคคลที่จบจากโรงเรียนนายร้อย ก็ควรที่จะเดินตามแบบของสุภาพบุรุษ ส่วนต่อจากนี้สังคมจะมีความขัดแย้งหรือไม่นั้น ผมไม่ทราบ แต่ส่วนตัวผมยึดหลักการว่า ผู้นำต้องเป็นแบบอย่างที่ดี”
00…มช.ชี้ใช้น้ำท่วมกลบกระแสอภัยโทษ
นายเอกมล สายจันทร์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยกรณีเดียวกัน  ว่า ถือเป็นความพยายามอย่างต่อเนื่อง ที่พรรคเพื่อไทยพยายามจะช่วยให้พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กลับเข้ามาประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง และน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดเรื่องการปรองดอง แต่ออกมาจากพรรคเพื่อไทยโดยตรง ไม่ได้มาจากหน่วยงานที่พยายามจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้
ส่วนเรื่องรายละเอียดที่ระบุว่ามีการตัดเนื้อหาของเดิมออก คือผู้ได้รับอภัยโทษจะต้องเป็นโทษที่ไม่เกี่ยวกับคดียาเสพติดและคดีทุจริต คอรัปชั่น และไม่มีการระบุถึงระยะเวลาการเข้ารับโทษ นั้น ตนมองว่าขณะนี้ ข้อมูลยังไม่ขัดเจน เพราะเป็นการประชุมลับ เรื่องที่เราได้รับทราบตอนนี้คนนำมาเผยแพร่ ระบุไว้แบบนั้น แต่หากร่างพ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษ เป็นแบบนั้นจริง ก็คงเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเป็นการปรับเงื่อนไขให้เอื้อกับพ.ต.ท.ทักษิณ
“ผมว่าการที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ได้เข้าร่วมประชุมครม.ในวันดังกล่าวท ี่มีวาระสำคัญเรื่องนี้ ก็เป็นเรื่องที่น่าผิดสังเกตแล้ว คงเพื่อไม่ให้เป็นการผูกมัดตัวเอง ส่วนการที่เลือกที่จะนำเรื่องร่างพ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษ เข้าที่ประชุมครม.ในช่วงนี้ คิดว่าน่าจะอาศัย ช่วงสถานการณ์น้ำท่วมซึ่งประชาชน ชาวบ้าน กำลังได้รับความเดือดร้อน ไม่น่าจะสนใจเรื่องปัญหาการเมืองมากนัก ใช้สถานการณ์น้ำท่วมเป็นการกลบกระแส เพราะรู้ว่าหลายฝ่ายอาจจะไม่เห็นด้วย”
00…หมอตุลย์ยื่นค้านต่อกฤษฎีกา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์  ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือกับเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อ “คัดค้านร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2554” โดยมีนางสิรินันท์ ปานเสมศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการมารับหนังสือแทน
โดยหนังสือระบุตอนหนึ่งว่า “ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชน คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาผ่านร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2554 เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีการแก้ไขสาระสำคัญ ให้แตกต่าง จากพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษครั้งก่อนๆ (พ.ศ.2547 พ.ศ.2549 และพ.ศ.2553) ดังนี้
1.มาตรา 4 เดิมผู้ที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษต้องอยู่ในการควบคุมของทางราชการ แก้ไขเป็น ไม่ต้องถูกคุมขังอยู่ก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษได้ 2.มาตรา 6 อาจมีการตัดภายใต้บังคับมาตรา 8 ออก และมาตรา 6 (1) แก้ไขจากเหลือโทษไม่เกิน 1 ปี เป็นเหลือโทษไม่เกิน 2 หรือ 3 ปี 3.บัญชีลักษณะความผิด ท้ายพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ จะมีการแก้ไขตัด (4) ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตออก ทำให้ผู้ต้องโทษ ด้วยความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยการป้องกันการปราบปรามการทุจริต ไม่เข้าข่ายในบังคับของมาตรา 8″
“การแก้ไขทั้ง 3 ประเด็นดังกล่าว จะทำให้นักโทษเด็ดขาดที่กระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริตที่ต้องโทษจำคุก 2-3 ปี และหลบหนีการคุมขังอยู่จะได้รับการพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว ตามมาตรา 6 ของร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2554 ซึ่งนักโทษเด็ดขาดทักษิณ ชินวัตร เป็นนักโทษเพียงคนเดียวที่เข้าข่ายดังกล่าว จึงถือว่าเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาฯเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับนัก โทษเด็ดขาดทักษิณ ชินวัตร แต่เพียงผู้เดียว”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการยื่นหนังสือทีมงานเครือข่ายพลเมืองฯ ได้มีการเชิญชวนให้ประชาชนที่ร่วมเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้าน โดย นพ.ตุลย์ ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 พ.ย.) จะมีการชุมนุมใหญ่ ที่สวนลุมพินี บริเวณลานพระรูปรัชกาลที่ 6 เพื่อคัดค้านการขอรับพระราชทานอภัยโทษ ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป


พิมพ์ไทย

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง