วิปริต ก่อการร้ายเผาเมืองกลับได้ดี ไพร่แดงกลายเป็นอำมาตย์

ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2554 03:48:51 น. คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา อนุมัติแต่งตั้งตำแหน่งข้าราชการการเมืองรวม 63 ตำแหน่ง ยังไม่รวมที่ตั้งไปบ้างแล้วก่อนหน้านี้และที่กำลังจะตั้งเพิ่มอีกในอนาคตเพื่อเป็นการปูนบำเหน็จแก่เหล่าแกนนำคนเสื้อแดง นายทุนที่มีอุปการคุณต่อระบอบทักษิณ รวมทั้งบรรดาสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่อกหักกันอย่างถ้วนหน้า ท่ามกลางคำถามและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่เพียงใด ตำแหน่งข้าราชการเมืองทั้ง 63 ตำแหน่ง ลอตล่าสุดประกอบด้วย ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 3 ตำแหน่ง ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 7 ตำแหน่ง ที่ปรึกษา และเลขานุการรัฐมนตรีรวม 28 ตำแหน่ง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี 20 ตำแหน่ง และตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่ผู้แทนการค้า 5 ตำแหน่ง ตำแหน่งพวกนี้ใครก็รู้ๆ ว่าเป็นตำแหน่งเทกระโถนของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย แต่ก็ไม่มากมายเหมือนรัฐบาลชุดนี้ที่ตั้งแบบปูนบำเหน็ตต่างตอบแทนก็อย่างย่ามใจ ทั้งๆ ที่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินไม่น้อย และส่วนใหญ่เป็นตำแหน่งโก้ๆ ที่ไม่มีงานทำเป็นกิจจะลักษณะ ขณะเดียวกันก็เปิดช่องให้มีการทุจริตรีดไถ หลายคนที่ได้รับแต่งตั้งเห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีความรู้ความสามารถอะไรตรงตามสายงานด้วยซ้ำ แต่เป็นการตบรางวัลให้คนที่ได้รับแต่งตั้งได้ใส่สูทเอาตำแหน่งไปคุยโม้โอ้อวดและนั่งกินเงินเดือนผลาญเงินหลวงฟรีๆ เมื่อพิจารณาค่าตอบแทนของบรรดาข้าราชการการเมืองที่ได้รับแต่งตั้งจะพบว่าต้องใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนไม่น้อย ยกตัวอย่าง หากเป็นผู้แทนการการค้าไทยจะได้เงินเดือนถึง 70,870 บาท กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีได้ 63,800 บาท รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง 53,440 บาท ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี 54,910 บาท ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี หรือที่ปรึกษารัฐมนตรี 45,000 บาท เลขานุการรัฐมนตรี 42,200 บาท ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรี 37,810 บาท ยังไม่รวมเงินประจำตำแหน่ง และยังมีรถประจำตำแหน่งรวมทั้งงบค่าอาหารและค่าน้ำมันอีกด้วย แต่ที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากก็คือ เหล่าแกนนำคนเสื้อแดงถึง 16 คน ซึ่งหลายคนเป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมือง แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์กลับปูนบำเหน็จให้มานั่งกินเงินเดือนถลุงงบประมาณแผ่นดินอันเป็นภาษีที่เกิดจากหยาดเหงื่อประชาขนทั้งประเทศโดยไม่แยแสความรู้สึกของคนทั้งประเทศแม้แต่น้อย แกนนำคนเสื้อแดงซึ่งมีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์ชุมนุมของม็อบเสื้อแดงจนนำไปสู่การก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปีที่แล้วที่ได้รับการปูนบำเหน็จต่างตอบแทนครั้งนี้ อาทิ นายอารี ไกรนรา หัวหน้าการ์ดคนเสื้อแดง ที่ถึงกับได้รับแต่งตั้งให้นั่งเก้าอี้เลขานุการรมว.มหาดไทย นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ "เจ๋ง ดอกจิก" ผู้ต้องหาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองได้เป็นเลขานุการรมช.มหาดไทย นายชินวัฒน์ หาบุญพาด ผู้ต้องหาก่อการร้ายอีกคนหนึ่ง ได้นั่งเก้าอี้ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำแดงภาคเหนือตัวเอ้ ที่สร้างผลงานก่อจลาจลมาหลายต่อหลายครั้งได้ตำแหน่งที่ปรึกษารมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายนาวิน บุญเสรฐ แกนนำคนเสื้อแดงภาคเหนืออีกคนหนึ่ง ได้นั่งเก้าอี้ เลขานุการรมว.ต่างประเทศ นายวิสา คัญทัพ หนึ่งในแกนนำเสื้อแดงที่เป็นผู้ต้องหาก่อการร้าย ได้ปูนบำเหน็จเป็นถึงกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ขณะที่ก่อนหน้านี้ นางไพจิตร อักษรณรงค์ แกนนำคนเสื้อแดงซึ่งเป็นภรรยานายวิสา ก็เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี การปูนบำเหน็จบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงอย่างทั่วหน้าครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า จุดขายของคนเสื้อแดงที่ใช้วาทกรรมสร้างความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวด้วยข้ออ้างแบ่งแยกชนชั้นระหว่าง "ไพร่"กับ "อำมาตย์" ตลอดช่วงที่ผ่านมา เป็นเพียงวาทกรรมที่สร้างขึ้นมาเพื่อหลอกลวงสาธารณชน เพราะเห็นได้ชัดเจนว่า วันนี้เหล่าแกนนำคนเสื้อแดงลืมกำพืดความเป็นไพร่ของตัวเองแล้วอย่างสิ้นเชิงและกำลังเริงร่าเสพสุขกับตำแหน่งอำมาตย์ ขณะที่มวลชนคนเสื้อแดงยังคงสำแดงพฤติกรรมไพร่แบบถ่อยดิบเถื่อนด้วยความผยองลำพองหลังชิงอำนาจรัฐได้สำเร็จด้วยการรุมทุบรถ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ขณะกำลังจะเดินทางออกจากรัฐสภาหลังเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายของรัฐบาล หรือการคุกคามสื่อที่ไม่ถูกใจรัฐบาลหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้ภาวการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าหรือบ้านเมืองกำลังวิปริตเพราะพวกที่เป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมือง กลับได้รับการปูนเหน็จจากไพร่กลายเป็นอำมาตย์ซ้ำรัฐบาลกลับนำเอาเงินของแผ่นดินมาปรนเปรอเหล่าไพร่ที่วันนี้เปลี่ยนสีนั่งเก้าอี้อำมาตย์กันอย่างหน้าตาเฉย ทีมข่าวการเมือง แนวหน้า