บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เบื้องลึกแห่งคอร์รัปชั่น..กรณีเครื่องบินโบอิ้ง 737..





เบื้องลึกแห่งคอร์รัปชั่นและความไม่มีประสิทธิภาพของนักการเมือง..กรณีเครื่องบินโบอิ้ง 737..ศาลเยอรมันตัดสินจันทร์นี้
  by feng_shui ,


15 ก.ค. เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ ได้เผยแพร่คำสัมภาษณ์ของนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กรณีบริษัทวอลเตอร์ เบา (Walter Bau) ของเยอรมนี ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลไทย มีรายละเอียดดังนี้
คดีบริษัทวาลเทอร์ เบา ของเยอรมนี ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลไทย
"ส่วน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือนายชไนเดอร์ฟ้องร้องกับศาลยุติธรรมเยอรมนี ได้ตัดสินเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ให้ไปยึดเครื่องบินของไทยที่จอดอยู่ที่นครมิวนิก รัฐบาลทราบเรื่องเช้าวันที่ 13 กรกฎาคม และได้เร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วนด้วยความกังวล ในแง่เนื้อหาคือเจ้าทุกข์สามารถดำเนินการกับทรัพย์สินของรัฐบาลไทยได้ แต่เครื่องบินลำนี้ไม่เกี่ยวกับทรัพย์สินของรัฐบาลไทย ฉะนั้น ในแง่กฎหมายเป็นการอายัดทรัพย์สินส่วนบุคคลซึ่งศาลไม่มีสิทธิทำเช่นนั้น ถือเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง" นายกษิตกล่าว
เมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๔ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่กระทรวงการ ต่างประเทศ เกี่ยวกับคดีบริษัทวาลเทอร์ เบา (Walter Bau) ของเยอรมนี ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลไทย สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. คดีดังกล่าวเป็นเรื่องระหว่างบริษัทวาลเทอร์ เบา ของเยอรมนีกับรัฐบาลไทย โดยบริษัทฯ เป็นโจทก์ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลไทย กรณีผิดสัญญาโครงการทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ ตั้งแต่ปี ๒๕๔๘ ตามสนธิสัญญาระหว่างไทยกับเยอรมนีเกี่ยวกับการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน ต่างตอบแทน ค.ศ. ๒๐๐๒ ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการได้ตัดสินชี้ขาด เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ให้รัฐบาลไทยชดใช้ค่าเสียหายแก่บริษัทฯ เป็นเงินประมาณ ๓๐ ล้านยูโร บวกดอกเบี้ยและค่าดำเนินการของคณะอนุญาโตตุลาการอีกเกือบ ๒ ล้านยูโร
๒. โดยที่สหรัฐฯ เป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการยอมรับนับถือและการใช้บังคับคำชี้ขาดอนุญาโต ตุลาการต่างประเทศ ค.ศ. ๑๙๕๘ (Convention on the Recognition and Enforcement of Foreign Arbitral Awards) บริษัทฯ จึงได้นำคดีฟ้องต่อศาลนครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๓ เพื่อขอให้บังคับคดีตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ซึ่งต่อมาศาลนครนิวยอร์กได้ตัดสินให้ไทยปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโต ตุลาการ รัฐบาลไทยโดยสำนักงานอัยการสูงสุดอยู่ระหว่างการอุทธรณ์คำตัดสินของศาล นิวยอร์ก
๓. ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งเยอรมนีอีกทางหนึ่งเพื่อให้มีการบังคับคดี ซึ่งศาลเยอรมนีได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ให้ยึดทรัพย์สินรัฐบาลไทยโดยมิได้มีการสอบถามหรือไต่สวนฝ่ายไทย ซึ่งนำไปสู่การอายัดเครื่องบินพระที่นั่งของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ซึ่งจอดอยู่ที่ท่าอากาศยานนครมิวนิก เมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๔ โดยเข้าใจผิดว่าเป็นเครื่องบินของรัฐบาลไทย
๔. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวของฝ่ายเยอรมันเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงอันเกิดจาก ความเข้าใจผิด เนื่องจากเครื่องบินลำดังกล่าวเป็นเครื่องบินส่วนพระองค์ มิใช่ทรัพย์สินของรัฐบาลไทย ฝ่ายไทยได้ดำเนินการติดต่อทางการเยอรมันทันทีที่ได้รับทราบเรื่องในทุกช่อง ทางเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและหลักฐานยืนยันว่า เครื่องบินลำดังกล่าวเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ โดยในการดำเนินการของฝ่ายไทยนั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน ได้ให้ข้อมูลข้างต้นแก่กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี และรัฐมนตรีว่าการฯ ได้มีหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีแสดงความกังวลอย่างยิ่งของฝ่าย ไทยและขอให้ฝ่ายเยอรมันถอนการอายัดเครื่องบินลำดังกล่าวในทันที และได้สนทนาทางโทรศัพท์กับปลัดกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี กระทรวงฯ ได้เชิญอุปทูตสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย มารับทราบข้อเท็จจริง และคณะผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย นำโดยอัยการสูงสุดและรองอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ ได้เดินทางไปถึงนครมิวนิคแล้ว ขณะที่เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน ได้ติดต่อทนายความเยอรมันเป็นที่ปรึกษาประเด็นด้านกฎหมาย นอกจากนั้น รัฐมนตรีว่าการฯ จะเดินทางไปกรุงเบอร์ลินในคืนวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๔ เพื่อพบกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีในบ่ายวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๔ เพื่อให้มีการถอนอายัดเครื่องบินลำดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
๕. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศย้ำว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องระหว่างบริษัทวาลเทอร์ เบา กับรัฐบาลไทย รัฐบาลไทยเคารพและไม่มีความตั้งใจที่จะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของเยอรมนี ตลอดจนเข้าใจว่าการดำเนินการเรื่องนี้อาจต้องใช้เวลาบ้าง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยหวังว่า กรณีที่เกิดขึ้นจะได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด
๖. สำหรับคดีฟ้องร้องระหว่างบริษัทวาลเทอร์ เบา กับรัฐบาลไทย สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลไทยให้เป็นผู้รับผิดชอบในคดีดังกล่าว กำลังอุทธรณ์คำตัดสินของศาลนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นกระบวนการทางกฎหมายที่จะต้องดำเนินต่อไป
นางคอร์เนเลีย พีเพอร์ รมช.ต่างประเทศเยอรมนี และนายกษิต ภิรมย์
รมช.ตปท.เยอรมนีเสียใจศาลอายัดเครื่องบินไทย
สำหรับเรื่องราวของ เครื่องบินโบอิ้ง 737 พระ ราชพาหนะของมกุฎราชกุมาร วชิราลงกรณ์ ถูกอายัดที่สนามบินมิวนิคโดยเจ้าหน้าที่เร่งรัดหน้าสินของบริษัทสัญชาติ เยอรมัน วอลเตอร์ บาว (Walter Bau AG)
ขอนำเรื่องราวเบื้องหลังที่มาของการอายัคมาลำดับความ เนื่องจากมีหลายท่าน คอมเม้นท์ว่างง กับเรื่องราว
เครื่อง บินลำดังกล่าวถูกยึดเนื่องมาจากข้อเรียกร้องทางการเงินที่มีต่อรัฐไทยโดย เฉพาะต่อกรมทางหลวง และไม่ได้เกี่ยวข้องกับหนี้ส่วนตัวของฟ้าชายแต่อย่างใดอย่างก็ตาม เจ้าหน้าที่เร่งรัดหนี้ของบริษัทเยอรมันที่ว่านี้ ยึดเครื่องบินไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาอาจมองได้ว่าเป็นการรุกเพื่อที่จะ เร่งรัดให้ประเทศไทยจ่ายหนี้ที่ติดค้างไว้ เครื่องบินลำดังกล่าวในทางการแล้วเป็นของกองทัพอากาศไทย แต่สงวนเป็นการใช้ส่วนพระองค์สำหรับฟ้าชาย
หนี้ดังกล่าว มีที่มาจากการถือหุ้นของบริษัทวอลเตอร์ บาว จำนวน 10เปอร์เซ็นต์ ในบริษัททางยกระดับดอนเมืองซึ่งสร้างและดำเนินการทางด่วนยกระดับจากตัว เมืองกรุงเทพฯ เชื่อมต่อสนามบินดอนเมืองซึ่งเป็นอดีตสนามบินนานาชาติของกรุงเทพฯ บริษัทวอลเตอร์ บาวได้ล้มละลายในปี 2548 และเจ้า หน้าที่ที่ที่พยายามเร่งรัดหนี้ดังกล่าวให้กับเจ้าหนี้ ได้เรียกร้องสินไหมต่อประเทศไทยสืบเนื่องจากการเปลี่ยนเงื่อนไขของข้อสัญญา ในการสร้างทางด่วนและการปฏิเสธการขึ้นค่าทางด่วนที่ต้องจ่ายโดยพาหนะผู้ใช้ ถนนดังกล่าวซึ่งถูกมองว่าเป็นสาเหตุให้ทำให้โครงการดังกล่าวขาดทุน
ในปี 2552 คณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ มีคำสั่งให้ประเทศไทยจ่ายเงินจำนวน 29.2 ล้านยูโรเป็นค่าชดเชย พร้อมทั้ง 1.98 ล้านยูโรเป็นค่าละเมิดสัญญาการตัดสินใจและความเป็นมาที่เป็นปัญหาของโครงการทางยกระดับสนามบินดอนเมืองสามารถดูข้อมูลได้ คลิก ลิ้งค์นี้ (เอกสาร ร้อยกว่าหน้าPDF)
บทเรียนความไม่มีประสิทธิภาพและการคอร์รัปชั่น
คณะอนุญาโตตุลาการได้พบว่าการลดค่าทางด่วนในสมัยอดีตนายกฯ ทักษิน ชินวัตร ที่ประกาศใช้ในปี 2547 เป็น การละเมิดข้อตกลงกับวอลเตอร์ บาว และเมื่อคณะอนุญาโตตุลาการประกาศผลตัดสินนายกรัฐมนตรีในตอนนั้น คือ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวว่ารัฐบาลไทยไม่ยอมรับผลการตัดสินดังกล่าวและสัญญาว่าจะต่อสู้กลับ
พร้อม ตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อต่อสู้คดี โดยประเด็นที่นำมาต่อสู้ มองว่า บริษัท วอลเตอร์ บาว ฟ้องเรียกค่าเสียหายด้วยเจตนาไม่สุจริต และคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการไม่ยุติธรรม
นอก จากนี้บริษัท วอลเตอร์ บาว ไม่มีสิทธิจะฟ้องรัฐบาลไทย เนื่องจากไม่ใช่คู่สัญญากับรัฐบาลโดยตรง แต่เป็นเพียงผู้ถือหุ้นของบริษัททางยกระดับดอนเมืองเท่านั้น ที่สำคัญ ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้เยียวยาค่าชดเชยให้กับดอนเมืองโทลล์เวย์ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการขยายสัมปทานออกไปถึงปี 2577, ให้ปรับค่าผ่านทางได้ตามสัญญาเดิม, รวม ถึงการปรับค่าผ่านทางรถยนต์ 4 ล้อ จาก 55 บาท เป็น 85 บาท มีผลเมื่อเดือนธันวาคม 2552 ส่วนค่าชดเชยรายได้จากการให้ลดค่าผ่านทางเหลือ 20 บาทตลอดสาย กรมทางหลวงได้จ่ายเงินชดเชยไปแล้ว 30 ล้านบาท
เมื่อ คณะทำงานฝ่ายไทยเสนอคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการต่อศาลปกครองกลางของไทย เพื่อเพิกถอนคำชี้ขาด แต่ศาลปกครองมีคำวินิจฉัยว่า คดีดังกล่าวไม่อยู่ในเขตอำนาจของศาลปกครอง ทำให้กระบวนการต่อสู้หยุดชะงักตั้งแต่นั้นมา และรัฐบาลไทยยังไม่มีการจ่ายค่าเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น
ปัจ ุบัน บริษัท วอลเตอร์ บาว อยู่ในสถานะล้มละลายไปแล้ว บรรดาเจ้าหนี้จึงต้องดำเนินการแปรทรัพย์สินที่หลงเหลืออยู่ให้เกิดมูลค่าให้ ได้ รวมถึงการอายัดเครื่องบินสัญชาติไทยครั้งนี้ด้วย
คลิปรายงานพิเศษ ความคืบหน้าและความเป็นมาของการอายัด โบอิ้ง 737 (TNN24)
17 ก.ค. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายกษิต ภิรมย์ รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของไทย เข้าพบรัฐบาลเยอรมันแล้ว เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมันคืนเครื่องบินโบอิ้ง 737 โดยนายกษิตได้ เดินทางพร้อมคณะเจ้าหน้าที่ทูตและทนายที่พยายามจะชี้แจงการกระทำที่เขาระบุ ว่า เป็นความผิดพลาดมหันต์ จากบริษัท"วาลเทอร์ เบา "บริษัทเจ้าหนี้เยอรมัน ซึ่งร่วมสร้างทางดอนเมืองโทลล์เวย์ให้แก่ไทย เมื่อ 20 ปีก่อน ที่ยึดเครื่องบินดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายกษิตไม่ได้พบกับนายกุยโด เวสต์เตอร์เวลล์ รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมัน ซึ่งกำลังติดภารกิจเยือนต่างประเทศ แต่เขาได้พบกับนางคอร์เนเลีย ไปเปอร์ ซึ่งได้แสดงความเสียใจที่สร้างความไม่สะดวกให้แก่สมเด็จสมเด็จพระบรมโอรสาธิ ราชฯ แต่ระบุว่า กรณีดังกล่าวทางการเยอรมันไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ เนื่องจากคดีนี้กำลังอยู่ในมือศาลแพ่งเยอรมัน
กรณี วอลเตอร์ บาว เกิดขึ้นเป็นปัญหา ตั้งแต่ปลายรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  ต่อเนื่องมายังรัฐบาลสุรยุทธ์ จุลานนท์   รัฐบาลรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช  รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีการเปลี่ยนรัฐบาลถึง 5 ชุด  ทำให้การตัดสินใจล่าช้าและไม่ชัดเจน   
ที่มา เว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศ
บทความของ แอนดรูว์ แม็กเกรเกอร์ มาร์แชล นักข่าวอิสระ อดีตนักข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์ส
คม ชัด ลึก ,ประชาไท
มติชน และคลิปข่าว TNN24

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง