บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2555

เสียงข้างมากเป็นพิเศษ ยิ่งลักษณ์ ยิ่งเร่ง ยิ่งเละ!

โดย…ไพบูลย์ กระจ่างวุฒิชัย

หากจับความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย เอาเพียงเฉพาะในส่วนเกี่ยวข้องกับงานนิติบัญญัติจะเห็นได้ชัดเดินเกมเร่งเครื่องอย่างผิดปกติเห็นได้ชัด โดยสะท้อนได้จากการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ตัดสินใจมีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาการประชุมรัฐสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติ

ซึ่งจะปิดในวันที่ 18 เม.ย. ออกไปแบบไม่มีกำหนด เนื่องจากพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ต่างๆ ยังอยู่ในการพิจารณาของ 2 สภาอยู่หลายฉบับ


ระเบิดลงที่โรงแรมลี การ์เดน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาเมื่อวันที่ 31 มีนาคม บรรดาร้านค้าต่างๆได้รับความเสียหายไปทั่ว
การเอาประเด็นเรื่อง พ.ร.บ.ค้างสภามาเป็นเงื่อนไขขอทดเวลาบาดเจ็บครั้งนี้ เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น หากมองการประชุมสภาที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าสมาธิของเสียงข้างมากพรรคเพื่อไทย ไม่ได้มีสมาธิใจจดใจจ่อกับการพิจารณากฎหมายมากนัก ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายของภาคประชาชนหรือกฎหมายที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) รูปธรรมของเรื่องนี้แสดงให้เห็นได้จากการปิดประชุมสภาก่อนเวลาอันควรหลายต่อหลายครั้งตั้งแต่เดือน ม.ค.เป็นต้นมา

เท่ากับว่าการขยายเวลาสมัยนิติบัญญัติออกไป จึงเป็นเพียงการเอื้ออำนวยให้ภารกิจหรือจ๊อบของพรรคเพื่อไทยให้เสร็จทันกำหนดมากกว่า

จ๊อบหลักๆ ของพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้มีอยู่ด้วยกัน 2 งาน คือ 1.รายงานคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ปรองดอง) และ 2.การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)

สองจ๊อบนี้พรรคเพื่อไทยมีความต้องการให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะในจ๊อบรัฐธรรมนูญ กล่าวคือ รัฐบาลต้องการส่งมอบงานต่อไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดการเลือกตั้ง ส.ส.ร. เพื่อเป็นเกราะกำบังว่ารัฐบาลไม่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก

เดิมในประเด็นนี้พรรคเพื่อไทยเกือบต้องติดหล่มตัวเองที่มีผลกระเทือนให้การแก้ไขมาตรา 291 อาจต้องล่าช้าออกไป เนื่องจาก กกต.ได้มีมติแสดงท่าทีมายังฝ่ายการเมืองว่าต้องการกฎหมายเฉพาะ คือ พ.ร.บ.เพื่อจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ร. แทนการให้ กกต.ไปอาศัยอำนาจตามร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ ครม.ไปยกร่างระเบียบเลือกตั้ง ส.ส.ร.แทน

ทว่า พรรคเพื่อไทยกลับไม่ต้องการอย่างนั้น แต่ปรารถนาให้ทุกอย่างไปตามปฏิทินที่กำหนดไว้ หากยอมตรา พ.ร.บ.ตามที่ กกต.ร้องขอ ย่อมมีผลต่อแผนของพรรคเพื่อไทยด้วย

ปมนี้พรรคเพื่อไทยจึงแก้เกมด้วยการเสนอให้นำบทบัญญัติบางมาตราจาก พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 มาบังคับใช้โดยอนุโลมแทน

ประเด็นนี้พรรคเพื่อไทยพยายามใช้เป็นเครื่องมือเพื่อป้องกันไม่ถูกครหาว่าได้ทำการมัดมือชก กกต.จนเกินไปเพื่อรวบรัดให้ทำคลอด ส.ส.ร. โดยอย่างน้อยการนำกฎหมายดังกล่าวที่มีสถานะเป็น พ.ร.บ.มาบังคับใช้โดยอนุโลมย่อมช่วยเป็นเกราะป้องกันให้ กกต.จัดการเลือกตั้ง ส.ส.ร.ได้อย่างสบายใจ

ส่วนจ๊อบ กมธ.ปรองดอง แน่นอนว่าเป้าประสงค์อยู่ที่การใช้เสียงข้างมากผลักดันต่อยอดรายงานของ กมธ. เพื่อนำไปสู่การตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมตามแนวทางในรายงานวิชาการของสถาบันพระปกเกล้า

จ๊อบนี้มีความสำคัญอย่างมากเพราะหมายถึงโอกาสการหวนคืนสู่มาตุภูมิของนายใหญ่ ไม่เช่นนั้นพรรคเพื่อไทยคงไม่ตัดสินใจขอขยายเวลาปิดเทอมของสภาออกไปพร้อมๆ กับการใช้เสียงข้างมากเพื่อให้สภามีความชอบธรรมสำหรับพิจารณารายงาน กมธ.ปรองดอง ได้ในสมัยนิติบัญญัติ

อย่างไรก็ตาม ถึงพรรคเพื่อไทยอยากจะเร่งเครื่องใส่เกียร์ห้าเดินหน้าให้จบใจจะขาดแค่ไหน แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะได้ดั่งใจไปเสียทุกเรื่อง ขืนใช้เสียงข้างมากลากไปทุกเรื่องจะกลายเป็นพิษเสียงข้างมากย้อนเข้าตัวจนกลายเป็นยิ่งเร่งยิ่งเละ

ปัจจัยสำคัญของการผลักให้รัฐบาลเข้าสู่สภาวะยิ่งเร่งยิ่งเละ คือบริบทอื่นๆ ที่แวดล้อมการเมืองในขณะนี้ โดย ณ วันนี้รัฐบาลกำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่และภัยคุกคามในหลายด้าน เช่น การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ปัญหาเศรษฐกิจที่มีผลสืบเนื่องมาจากนโยบายของรัฐบาลเอง หรือแม้แต่ปัญหาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

ปัญหาเหล่านี้กลายเป็นที่ยอมรับแล้วว่าต้องการได้รับการเยียวยาอย่างเร่งด่วนจากภาครัฐ ซึ่งเรื่องเร่งด่วนที่สุดหนีไม่พ้นปัญหาเศรษฐกิจ

วันนี้รัฐบาลยังไม่ได้ให้คำตอบแก่สังคมว่าจะมีมาตรการแก้ไขอย่างไร ยกตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างการขึ้นค่าจ้าง 300 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นมา ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อแรงงานในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการให้เห็นบ้างแล้ว เช่น การไม่จ้างแรงงานเพิ่มหรือการสั่งนำเข้าเครื่องจักรเพิ่มเติมเพื่อทดแทนแรงงานที่เริ่มมีต้นทุนสูงขึ้น

รองลงมาเป็นปัญหาความมั่นคง เห็นได้ชัดว่าตอนนี้กลับมาเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงจากเหตุการณ์ระเบิดพร้อมกัน 3 จุดในพื้นที่ภาคใต้โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งถือว่าเป็นการก่อเหตุใจกลางเมืองเศรษฐกิจสำคัญของพื้นที่ด้ามขวานของประเทศ ความเชื่อมั่นในทางเศรษฐกิจหายเกลี้ยง ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหาดใหญ่เสียโอกาสโกยรายได้เข้าประเทศในช่วงเทศกาลสงกรานต์

หรือแม้แต่การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนดูเหมือนจะเป็นเรื่องไกลตัว แต่กลับมีผลต่อเศรษฐกิจโดยตรงและอ้อมอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งรัฐบาลมีแนวทางอย่างไรเพื่อช่วยเหลือบางธุรกิจขนาดเล็กทุนน้อยที่ไม่สามารถต้านทานต่อการบุกของทุนใหญ่ในกระแสโลกเสรีได้

มาจนถึงวันนี้ คำตอบที่ได้จากรัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีเพียงการผลิตซ้ำคำพูดเดิมๆ ในทำนองว่า “ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาแล้วค่ะ”

เมื่อปัญหาเร่งด่วนยังไม่ได้รับการแก้ไข แต่บางเรื่องที่กำลังถูกกังขาว่ามีความจำเป็นหรือไม่กลับเดินหน้าอย่างเร่งรีบท่ามกลางข้อครหาถึงผลประโยชน์แอบแฝงในทางการเมือง หากรัฐบาลเดินตามเส้นทางนี้ต่อไปเรื่อยๆ หนีไม่พ้นการก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

แม้ ณ เวลานี้แรงต่อต้านอาจจะยังไม่ปรากฏให้รัฐบาลเห็นมากนัก โดยพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าแนวต้านรัฐบาลไร้น้ำยาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้รัฐบาลยังอยู่กับจินตนาการของตัวเองได้ต่อไปเรื่อยๆ แต่นั่นไม่ได้เป็นหลักประกันเลยว่าสถานการณ์จะสงบเช่นนี้ต่อไปตลอดรอดฝั่ง โดยแรงต้านรัฐบาลพร้อมก่อตัวได้ทุกเมื่อเมื่อฝ่ายการเมืองสร้างเงื่อนไขขึ้นมา

ถึงเวลานั้นสถานการณ์อาจยากเกินกว่าการควบคุมของผู้นำหญิงคนสวยคนนี้ก็เป็นได้

(จากคอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง ไพบูลย์ กระจ่างวุฒิชัย นสพ.โพสต์ ทูเดย์ ฉบับวันที่ 04 เมษายน 2555 )








รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง