โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 11 มิถุนายน 2554 18:40 น. |
|
|
|
|
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - "พิภพ" ควง "ชัชวาล" และ "สุมิตร นวลมณี" ขึ้นเวทีหนุนโหวตโนที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เชื่อมั่นพลังประชาชนนอกสภาเปลี่ยนแปลงการเมืองอีกครั้ง โดยขอคะแนนอย่างน้อย 5 ล้านเสียงต้าน กม.นิรโทษกรรม และนำไปสู่การปฎิรูปการเมืองใหม่ ท่ามกลางพี่น้องประชาชนหลายจังหวัดของภาคใต้ที่เดินทางมาร่วมสนับสนุน แม้ว่าจะเป็นพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์มาช้านาน พร้อมโต้ข่าวลือ นายสนธิ ลิ้มทองกุล รับเงินจากทักษิณมาทำโหวตโน ชี้พันธมิตรฯ ไม่เอาทั้ง “แม้ว-มาร์ค” และการเมืองรูปแบบเดิมที่ใช้เงินซื้อตั้งแต่ก่อนเข้าสภา
วันนี้ (11 มิ.ย.) เวลา 12.30 น. ณ โรงแรมเอเชี่ยน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.สงขลา ร่วมจัดเวทีเสวนาภาคประชาชน “ทำไมต้องโหวตโน โหวตโนแล้วจะได้อะไร” ท่ามกลางพี่น้องพันธมิตรฯ จากจังหวัดใกล้เคียงทั้ง ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, กระบี่, ตรัง, ปัตตานี, ยะลา และสตูลมาร่วมหลายร้อยคน โดยมีศิลปินกู้ชาติ สุกัญญา มิเกล ร่วมขึ้นเวทีร้องเพลงเป็นกำลังใจการทำงานและต่อสู้เพื่อสร้างสังคมการเมือง ใหม่ หลังจากที่เดินทางมาถึง อ.หาดใหญ่ ล่วงหน้า 2 วัน เพื่อร่วมรณรงค์โหวตโนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่และเทศบาลเมืองสงขลา ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้า ศูนย์กลางราชการที่ทำสำคัญของภาคใต้ตอนล่าง
ต่อมาเวลา 14.00 น. นายปิยะโชติ อินทรนิวาส หัวหน้าศูนย์ข่าวเอเอสทีวีผู้จัดการหาดใหญ่ ดำเนินรายการวงเสวนา โดยมีวิทยากรประกอบด้วย อ.พิภพ ธงไชย, นายชัชวาล ชาติสุทธิชัย และนายสุมิตร นวลมณี ประเดิมด้วยคำถามร้อนถึงกระแสข่าวลือว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล รับเงินจำนวน 2,000 ล้านบาท จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อรณรงค์โหวตโนเพื่อสกัดกั้นพรรคประชาธิปัตย์
เกี่ยวกับเรื่องนี้ อ.พิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชี้แจงว่า ตนยืนยันว่านายสนธิไม่ได้รู้เรื่องโหวต หรือไม่ประสงค์ลงคะแนน และเพราะไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย แต่โหวตโนเริ่มแตกตัวจากครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่ง ส.ส.เลือกตั้งกับพรรคเพื่อไทยในหลายปีก่อน ในการเลือกตั้งครั้งนี้เมื่อวิเคราะห์สถานการณ์รอบด้าน ตนจึงเสนอว่าควรนำการโหวตโนมาใช้ และประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจและสนับสนุนนำยุทธศาสตร์นี้มาแสดงพลังกับการเลือก ตั้งที่กำลังจะมีขึ้น เพื่อปฎิเสธนักการเมืองในระบบเก่า เพื่อเปลี่ยนพลังโหวตโนมาสู่การปฎิรูปทางการเมือง
อ.พิภพ กล่าวว่า การต่อสู้ที่ทำให้ ปชป.เป็นรัฐบาลล้วนมาจากแนวทางนโยบายการต่อสู้ของพันธมิตรทั้งนั้น และแม้ว่าพันธมิตรฯ ที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์แยกตัวออกไป แต่ถ้าวันนี้ไม่มีโหวตโนแล้ว จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์แพ้พรรคเพื่อไทยโดยได้น้อยกว่า 160 เสียงด้วยซ้ำ และตั้งรัฐบาลไม่ได้ และยอมรับว่าการมาของทักษิณเที่ยวนี้ทั้งแรงและเร็ว ทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ตัวเองกลับมาอย่างไร้มลทินโดยให้ตัวแทนสามารถตั้ง พรรครัฐบาลอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่การต่อสู้กับ ปชป. และทักษิณ แต่เป็นการต่อสู้ของประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยทั้งระบบครั้ง ใหม่ เพราะทุกพรรคการเมืองเข้ามาเพื่อทำธุรกิจการเมือง ทุจริตเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วคอรัปชั่นประเทศอย่างไม่จบสิ้น
ขณะที่ นายชัชวาล ชาติสุทธิชัย กล่าวว่า แม้ตนจะเป็นคนหนึ่งที่สนิทกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล เพราะเป็นเจ้าของสื่อที่ร่ำรวย มีเลือดนักสู้ทางการเมืองอย่างเต็มตัว กล้าได้กล้าเสีย นับตั้งแต่สมัย ปี 2535 พล.อ.สุจินดา คราประยูร ปราบการชุมนุมของประชาชน ทำให้หนังสือพิมพ์ผู้จัดการเพียงฉบับเดียวที่เสนอข่าวในช่วงนั้น แม้ในครั้งที่นายสนธิไม่ค่อยมีเงิน แต่ก็ยอมเจ็บตัวเพื่อสู้กับทักษิณจนเกิดวลี “ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง” จนกระทั่งล้มระบอบทักษิณได้เพราะการร่วมแรงของประชาชนในนามพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย
“เวลาคนใต้เลือกนักการเมืองก็จะต้องได้คนที่ขึ้นไปชก ไม่ใช่ชกลมเหมือนพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นรัฐบาลแล้วปล่อยให้คนเสื้อแดงต่อย ทุกครั้ง ผมเจอหน้านายอภิสิทธิ์ทีไรแล้วของขึ้นทุกที การที่พันธมิตรฯ สู้แล้วได้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็เพราะหวังอย่างยิ่งจะเห็นการเปลี่ยน แปลง รัฐสภาจะแก้ปัญหาต่างๆ ได้” นายชัชวาลกล่าวต่อและว่า
นักการเมืองไม่ใช่หนทางที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ เพราะเขาอยู่อย่างร่ำรวยได้จากการทำให้ประชาชนจนลงเรื่อยๆ แม้ประเทศจะมีทรัพยากรมากที่อยู่ในมือของนายทุน เกษตรกรขาดที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง ซึ่งในต่างประเทศทั้งในญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา เกษตรกรเป็นกลุ่มอาชีพที่มีความร่ำรวยจากการเป็นผู้ผลิตอาหาร แต่สำหรับประเทศไทยนโยบายพัฒนาด้านต่างๆ มีไว้ใช้หาเสียงไม่ได้นำมาทำ หากทำบ้างก็จะพิจารณาจากเปอร์เซ็นต์การคอรัปชั่นมากกว่า จึงเรียกได้ว่า นักการเมืองคือปัญหาที่เป็นภัยความมั่นคงของชาติ นับตั้งแต่กระบวนการได้มา ซึ่งมีการซื้อเสียงเพื่อยึดเป็นรัฐบาล เวลาจะออกกฎหมายก็ถูกครอบงำโดยกลุ่มทุนที่หนุนพรรคการเมืองนั่นเอง
นายชัชวาล ยังกล่าวถึงนายสนธิอีกว่า จากการที่เป็นคนมีน้ำใจคนหนึ่ง ทำให้ในยามเดือดร้อนนั้นมักได้เพื่อนเข้ามาช่วยเหลือ ครั้งหนึ่งเคยช่วยเพื่อนที่เรียนต่างประเทศด้วยกันจนเพื่อนเรียนจบ และไม่ได้เจอกันอีกเลย จนกระทั่งนายสนธิเข้ามาต่อสู้ทางการเมือง เพื่อนเก่าซึ่งปัจจุบันมีฐานะร่ำรวยติดต่อมาเพราะจะแต่งงานบุตรชาย นายสนธิจึงได้เอ่ยขอยืมเงินในยามที่รายได้ไม่พอจ่ายเงินเดือนพนักงานบริษัท อย่างไรก็ตาม ในห้วงนี้ ขอร้องไม่ให้นายสนธิขึ้นเวทีเพราะหวั่นว่าจะถูกปองร้าย เนื่องจากหน่วยเฉพาะกิจที่ยิงนายสนธิอยู่ในค่ายทหาร การโหวตโนครั้งนี้กระทบกระเทือนทุกฝ่าย จึงตกเป็นเป้าหมายลอบสังหารอีกครั้ง
นายสุมิตร นวลมณี คณะทำงานพันธมิตรฯ จ.สงขลา กล่าวว่า การหลอมรวมเป็นภาคประชาชนต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ในระยะเวลา 6 ปีที่รวมตัวกันเป็นพันธมิตรฯ และกลายมาเป็นพรรคการเมืองใหม่ ต้องยอมรับว่าผ่านอุปสรรคต่างๆ มากมาย และการขับเคลื่อนต่อไปได้ต้องไว้วางใจซึ่งกันและกันว่าพวกเราทำเพื่อประเทศ ชาติ ไม่ใช้ทำเพื่อตัวบุคคลไม่ว่าจะเป็น นายสนธิ ลิ้มทองกุล หรือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อย่างไรก็ตาม นายสนธิเคยกล่าวไว้ว่า ต่อไปหากพรรคการเมืองจะแตกออกไปก็ไม่เป็นไร แต่พันธมิตรฯ ก็ยังอยู่ต่อไป เพราะเป็นพลังของประชาชน แต่หากมีคนดีก็พร้อมจะสนับสนุนในนามพรรคการเมือง
นายสุมิตร ยังกล่าวเตือนด้วยว่า ในขณะนี้ได้รับข่าวจากหลายที่ว่า มีขวนการที่พยายามก่อเหตุความรุนแรงระหว่างการเลือกตั้งหากมีโอกาส มีเป้าหมายที่สำคัญ คือ กลุ่มโหวตโนเพราะจะเป็นการล้างอำนาจเก่าเพื่อสร้างอำนาจใหม่ซึ่งขัดผล ประโยชน์กับหลายฝ่าย และไม่คิดว่าโหวตโนหาดใหญ่จะมีคนร่วมอุดมการณ์มากมายเช่นนี้ เพราะเป็นพื้นที่ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยึดครองมานาน
นายพิภพ กล่าวในช่วงท้ายด้วยว่า พรรค ปชป.หวั่นไหวต่อกระแสโหวตโน เพราะกระทบโดยตรง และตอนที่เป็นรัฐบาลแล้วไม่จัดการกับทักษิณให้เด็ดขาด เพื่อแทงกั๊กให้คนกลัวทักษิณกลับมา และจะได้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป แต่ก็พิสูจน์จากากรชุมนุมของพันธมิตรฯ ทั้ง 2 ครั้งแล้วว่า พลังประชาชนนอกสภาสามารถเปลี่ยนแปลงขับไล่ระบอบทักษิณ และรัฐบาลนอมินีได้ เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่มีการชุมนุมพร้อมกับรณรงค์การโหวตโน จะไม่เป็นเสียงที่สูญเปล่าแน่นอน
สำหรับการโหวตโนที่จะเกิดขึ้นหากมีอำนาจพอ สังคมไทยจะได้อะไรนั้น นายพิภพ กล่าวว่า การเลือกโหวตโนนี้จะต้องไม่ต่ำกว่า 5 ล้านเสียง เพื่อต่อต้านการใช้กฎหมายนิรโทษกรรมนักการเมือง และหลังวันที่ 3 ก.ค. จะมีการร่วมกันคิดเสนอว่าจะให้ประเทศเดินหน้าต่อไปอย่างไรจากทุกภาคส่วน เพื่อเสนอให้มีการปฎิรูปการเมือง ซึ่งจะต้องร่วมแรงกันทำให้บรรลุเป้าหมายโดยใช้ระยะเวลาอีกห้วงหนึ่ง เพราะนักการเมืองด้วยกันเองไม่สามารถจัดการนักการเมืองที่โกงได้
ด้านนายชัชวาล กล่าวว่า ประชาชนเลือกนักการเมืองเพื่อให้พัฒนาประเทศ ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้ามเมื่อนักการเมืองอ้วนพี แต่ประชาชนจนลงทุกวัน เมื่อพิจารณาต้นเหตุแล้วพบว่าสอดคล้องกับพระราชดำรัสของในหลวง ที่ทรงตรัสว่าให้เลือกคนดีขึ้นมาปกครองบ้านเมือง และเมื่อพิจารณาลึกไปอีกพบว่าพรรคการเมืองไม่ได้คัดเลือกคนดีมาให้ประชาชน เลือกนั่นเอง ดังนั้น หากไม่แก้ปัญหานักการเมืองแล้ว ประเทศไทยก็จะเดินหน้าพัฒนาได้เต็มประสิทธิภาพไม่ได้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม เวทีเสวนาในครั้งนี้ ได้เปิดพื้นที่ให้ทุกคนมีส่วนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยการเขียนคำถาม ความคิดเห็น เพื่อให้พิธีกรนำมาอ่านบนเวที และร่วมแลกเปลี่ยนกับวิทยากร พร้อมทั้งปรบมือสนับสนุนให้การโหวตโนเพียงคนละ 1 เสียงในครั้งนี้ รวมกันเป็นหลายล้านเสียง เพื่อร่วมเปลี่ยนแปลงประเทศชาติให้เดินทางต่อไปด้วยความสุจริต ยุติธรรม และตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
หลายสิบปีมานี้การซื้อเสียงเพิ่มวงเงินขึ้นเรื่อยๆ มีการซื้อตัว ซื้อก๊ก ส.ส. ที่ลงทุนหนักเช่นนี้เพราะการถอนทุนจากการทุจริตนั้นมีมูลค่ามหาศาล และคุ้มค่า ทั้งการแก้กฎหมาย รัฐธรรมนูญเพื่อเอื้อประโยชน์ในการแสวงหาผลประโยชน์ จึงยังไม่เคยเห็นกฎหมายใดที่จะระบุว่า หากมีการทุจริตคอรัปชั่นแล้วจะยึดทรัพย์ทั้งครอบครัว
|
|