บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554

สะกิดฝ่ายค้านตีให้แตก รัฐบาลปูจะพังได้อย่างไร ล้มเพราะสะดุดขาตัวเอง ถูกล่า'นโยบายที่หาเสียง'

สะกิดฝ่ายค้านตีให้แตก รัฐบาลปูจะพังได้อย่างไร ล้มเพราะสะดุดขาตัวเอง ถูกล่า'นโยบายที่หาเสียง'


 
        นพดล อินนา

        เอ่ยชื่อ “ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์” อดีตรมว.มหาดไทย ในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร เจ้าของฉายา “มือปราบสายเดี่ยว” ที่ ทำงานตรงไปตรงมา ส่งผลให้ผู้เสียประโยชน์เกิดความเห็นขัดแย้ง จนเป็นสาเหตุของการปรับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีของ “ร.ต.อ.ปุระชัย” ให้ถูกย้ายไปเป็น “รมว.ยุติธรรม” ในเวลาต่อมา ก่อนจะโบกมือลาพรรคไทยรักไทย เพราะมีความเห็นทางการเมืองที่ขัดแย้งกัน

ภาพลักษณ์ของ “ร.ต.อ.ปุระชัย” นั้น สังคมให้การตอบรับอย่างมาก ถึงขนาดเมื่อปี 2550 เคยมีการทำโพลล์ และพบว่า “เขา” คือบุคคลอันดับ 1 ที่คนไทยอยากให้เป็น “นายกรัฐมนตรี”
ต้นปี 2554 “ร.ต.อ.ปุระชัย” ได้หวนคืนสนามการเมืองอีกครั้ง โดยช่วงแรกมีข่าวจะไปร่วมก่อตั้ง “พรรคประชาสันติ” แต่หลังจากนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ “เขา” และ “ผองเพื่อน” ได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 2 เม.ย.2554 ด้วยการประกาศตั้ง “พรรครักษ์สันติ” โดยไม่มีรายชื่ออยู่ในคณะกรรมการบริหารพรรค แต่ได้ลงเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 โดยมี “นพดล อินนา” คนสนิท-คนใกล้ชิด ลงสมัครบัญชีรายชื่อลำดับที่ 2
เมื่อผลการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค. 2554 ออกมา ปรากฏว่า “พรรครักษ์สันติ” ได้รับเลือกตั้งเพียง 1 ที่นั่งเท่านั้น ท่ามกลางความผิดหวังของใครหลายคน
วันนี้ “ไทยอินไซเดอร์” ขอนำไปสนทนากับ “นพดล อินมา” คนใกล้ชิดของร.ต.อ.ปุระชัย เพราะเคยมีใครบอกไว้ว่า คำพูดของเขาจะสะท้อนความคิดของ “มือปราบสายเดี่ยว” นั่นเอง และเป็นคำเตือนไปถึง “พรรคประชาธิปัตย์” ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านพรรคใหญ่ด้วย
ถือเป็นคำวิจารณ์ที่ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่น่าสนใจและต้องรับฟัง...!!!
Q : มองการทำงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างไร
A : หลังเลือกตั้งมาแล้วน่าเห็นใจ ในแง่ของก่อนการเลือกตั้ง พรรครัฐบาล โดยเฉพาะพรรคแกนนำ (หมายถึงพรรคเพื่อไทย) ได้หาเสียงโดยเสนอนโยบายต่างๆกับประชาชนอย่างมากมาย ซึ่งขณะนี้รัฐบาลก็ถูกไล่ล่าโดยนโยบายที่ตัวเองนำเสนอตอนหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งตรงนี้มันจะทำให้ความคาดหวังของพี่น้องประชาชนซึ่งตั้งความหวังไว้กับ รัฐบาลนี้มาก สมมติว่า 10 เรื่อง ถ้ารัฐบาลทำได้ 9 เรื่อง และทำไม่ได้ 1 เรื่อง ความ คาดหวังที่ตั้งความหวังไว้สูง จะทำให้ “ความหวัง” นั้นตกลงมาอย่างรวดเร็ว หมายความว่า “กระแสความนิยมจะตกมาอย่างรวดเร็ว” เพราะฉะนั้นถ้าเป็นอย่างนี้ รัฐบาลไม่มีเวลาฮันนีมูน ซึ่งขณะนี้ก็เข้าใจว่าเร่งดำเนินการอยู่ ประกอบกับช่วงที่รัฐบาลมารับหน้าที่ ก็เกิดสภาวะน้ำท่วมหนักหลายจังหวัด ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้เวลาส่วนหนึ่งก็หันเหไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่กำลัง ประสบอุทกภัยอยู่
“ทุกอย่างประดังประเดมาอยู่ในช่วงนี้พอดี และเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของรัฐบาลก็ไม่ทราบ ที่เป็นช่วงที่อยู่ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการพอดี ซึ่งขณะนี้ประชาชนหลายฝ่ายโดยเฉพาะข้าราชการเขาก็กำลังจับตามองอยู่ว่า รัฐบาล...จริงอยู่รัฐบาลมีความชอบธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายตามปฏิทินหรือตาม ฤดูโยกย้าย แต่ว่าประเด็นที่คนเขาสงสัยกันอยู่ การแต่งตั้งโยกย้ายเป็นไปอย่างที่ใช้คนถูกกับงาน หรือว่ามีความเหมาะสมมาก-น้อยแค่ไหน”
Q : กระแสการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนสี ออกจากเลขาธิการสมช. เพื่อเปิดทางให้พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ ได้นั่งเก้าอี้ผบ.ตร. จะเป็นชนวนเหตุหนึ่งที่รัฐบาลถูกโจมตีว่าเป็นรัฐบาลที่ทำเพื่อเครือญาติหรือ ไม่
A : อันนี้รัฐบาลก็ต้องพิสูจน์ คือจะเป็นเครือญาติหรือไม่อย่างไร ผมคงไม่แตะไปที่ตัวบุคคล ไม่วิพากษ์วิจารณ์ไปที่ตัวบุคคล แต่ว่ารัฐบาลต้องพิสูจน์ว่า การที่จะแต่งตั้งโยกย้ายใครสักคนหนึ่งเข้ามาดำรง ตำแหน่งใด ตำแหน่งหนึ่ง เขาคนนั้นมีความสามารถมีความเหมาะสมและเป็นที่ยอมรับในองค์กรมากน้อยแค่ไหน ตรงนี้สำคัญที่สุดจะเป็นใครก็ตาม ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลควรดำเนินการก็ คือ ต้องใช้คนให้เหมาะสม ให้ถูกกับงาน คนนั้นเมื่อแต่งตั้งมาแล้ว ทำงานได้จริงหรือไม่ มีประสิทธิภาพหรือไม่ และที่สำคัญดีกว่าคนก่อนหรือไม่ ดีกว่าคนที่ถูกโยกย้ายไปหรือไม่ อันนี้ต้องพิสูจน์กัน สมมติแต่ง ตั้งโยกย้ายไปแล้ว ปรากฏว่าดีเท่ากัน ความสามารถเท่ากัน ผลงานที่ผลิตมาสู่พี่น้องประชาชนมีความเท่ากัน ก็จะเกิดคำถามอีกว่าแล้วไปโยกย้ายเขาทำไมละ คนเดิมก็ดีอยู่แล้ว แต่ในทางกลับกัน ถ้าเข้ามาแล้วเขาทำงานได้ดีกว่าคนที่ถูกโยกย้ายไป อันนั้นก็ถือว่าเป็นผลงานของเขาไป ในทางตรงข้ามถ้ามาแล้วกลับทำงานแย่กว่าคนเดิมอีก อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ประชาชน คงตั้งคำถามตัวใหญ่ๆว่า เอ๊ะ...เกิดอะไรขึ้น แล้วก็จะโยงไปสู่อย่างที่ถามเรื่องเครือญาติ
Q : ส่วนตัวมองสถานการณ์ของรัฐบาลขณะนี้เป็นไปอย่างที่พรรคประชาธิปัตย์กำลังโหมโรงตีข่าวหรือไม่ว่าเป็น “รัฐบาลทำเพื่อคนๆเดียว”
A : ตรงนี้ยังไม่ชัดเจนถึงขนาดนั้น เพราะว่าเรื่องต่างๆยังไม่เกิดขึ้นในลักษณะที่ว่าอย่างที่เป็นข่าวกัน เรื่องนิรโทษกรรมก็ดี เรื่องการแก้กฎหมายช่วยใครคนใดคนหนึ่ง ยังไม่ชัดเจนซะทีเดียว แต่อันนี้จะเป็นข้อพึงระวัง ข้อเตือนใจให้กับรัฐบาลว่า ขณะนี้ไม่เฉพาะฝ่ายค้าน สังคมส่วนหนึ่งไม่น้อยทีเดียวก็จับตามองอยู่ว่ารัฐบาลเขาเลือกมาเพื่อมาแก้ ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนคนส่วนใหญ่ของแผ่นดิน ไม่ใช่มาช่วยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ถ้ารัฐบาลไม่สามารถพิสูจน์ตรงนี้ได้ จะเป็นเรื่องที่กระแสความนิยมจะเสื่อมลงเร็ว ประกอบกับตัวท่านนายกรัฐมนตรีเองที่มีความสัมพันธ์กับอดีตนายกฯทักษิณ ตรงนี้เวลาจะเดินทำอะไรยังไง ท่านต้องระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษ คือความเป็นเครือญาติไม่สามารถตัดออกไปได้ คือทำเสมอตัว ทำดีเสมอตัวคนก็ยังมีข้อสงสัยเลย เพราะฉะนั้นท่านต้องทำให้ดีกว่าสิ่งที่คนเขาจับตามองอยู่ ผมคิดว่าจะเป็นทั้งข้อดีข้อเสียอยู่ในตัวเดียวกัน
Q : การที่รัฐบาลพยายามจะแก้ข้อกล่าวหานี้ จะเป็นไปได้แค่ไหน เพราะในขณะเดียวกันกลับมีคนในพรรคเพื่อไทยเองที่ออกมาแสดงท่าทีสอดรับทั้ง เรื่องถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ เรื่องการรื้อฟื้นคดีที่ดินรัชดาฯ
A : ก็ไม่แปลกครับ ส่วนที่สนับสนุนรัฐบาลอยู่ เขาก็ต้องคิดแบบนั้น แต่ทั้งหลายทั้งปวง อย่าลืมว่าคนที่เลือก...ส่วนหนึ่งที่เลือกมา ก็แน่นอนเป็นแฟนประจำของพรรครัฐบาล แต่อีกส่วนหนึ่งที่เขาเลือก เขาอาจจะเบื่อรัฐบาลเก่าหรืออดีตรัฐบาล แต่เขาไม่ได้เลือกพรรครัฐบาลปัจจุบันมาเพื่อที่จะมาทำงานให้กับคนกลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง ผมเชื่อว่าอย่างนั้น เพราะฉะนั้นต้องพึงระวัง ถ้าคนกลุ่มนี้ถ้าเขาไม่พอใจขึ้นมา ก็จะลำบาก วงโคจรเก่า วงจรเก่าๆ ก็จะกลับมาอีก Q : ถ้ารัฐบาลจะอ้าง 15 ล้านเสียงเพื่อที่จะเร่งรัดกระทำการบางอย่างก็เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม
A : 15 ล้านเสียงหรือจะมากกว่านั้นก็สุดแล้วแต่ เขาเลือกมาต้องยอมรับว่า เลือกมาให้ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ของ แผ่นดิน ประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่ประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือพรรคพวก หรือพวกพ้อง อันนี้ต้องตีประเด็นนี้ให้ออก เพราะฉะนั้นผมไม่เชื่อว่า 15 ล้าน หรือมากกว่านั้น เขาเลือกพรรคเพื่อที่จะมาทำประโยชน์ให้กับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง...คงไม่ใช่
Q : กรณีที่รัฐบาลกระทำการบางอย่างเพื่อคุณทักษิณจะกลายเป็น “จุดตาย” ของรัฐบาลหรือไม่
A : ผมยังไม่คิดว่าอดีตนายกฯทักษิณจะมีระดับความสำคัญถึงจะทำให้ รัฐบาลล่มได้ สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลจะล้มก็คือเรื่องสัญญาประชาคม นโยบายต่างๆ อย่าลืมว่าแต่ละเรื่องเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ง่าย แล้วหลายเรื่องประชาชนก็จะทวงถาม เอ๊ะ...ทำไม-ไม่ทำละ ตอนที่หาเสียงทำไมสัญญาไว้อย่างโน้นอย่างนี้ ตรงนี้จะเป็นประเด็นหลัก ประเด็นที่สอง คือเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น อันนั้นจะเป็นเรื่องที่ทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้มากกว่าที่จะเป็นอดีตนายกฯ ทักษิณ ผมยังคิดว่าไม่ใช่
Q : ถ้ารัฐบาลจะล้มก็คงเพราะสะดุดขาตัวเอง
A : ตรงนี้แหละครับ รัฐบาลจะถูกไล่ล่า ไม่ใช่โดยฝ่ายค้าน แต่โดยนโยบายของตัวเองที่ตอนหาเสียงนำเสนอกับประชาชนไป ถ้าทำไม่ได้ก็จบ
Q : การยกเรื่องรัฐบาลทำเพื่อคนๆเดียว ทำเพื่อเครือญาติมาโจมตี ยังไม่สามารถจุดประเด็นให้เกิดแรงกระเพื่อม มาสั่นคลอนรัฐบาลได้
A : ยังไม่ใช่ประเด็นที่จะนำไปสู่การล้มรัฐบาลได้ จริงๆอยากจะแนะนำว่า ถ้า จะตรวจสอบรัฐบาล ควรจะเอานโยบายต่างๆ ตอนที่หาเสียงมากางกันเลย เรื่องนี้เริ่มเมื่อไหร่ เริ่มยังไง แล้วใครได้ประโยชน์ ใครเสียประโยชน์บ้าง มันผิดหรือมันถูกข้อกฎหมายมากน้อยแค่ไหนยังไง เพราะมันมีหลายเรื่องเหลือเกินที่รัฐบาลดำเนินการ อย่างเป็นต้นว่าแม้กระทั่งเรื่องที่เข้าครม.ไปแล้ว กรณีซื้อรถยนต์คันแรกจะได้ภาษีคืน แล้วต้องครองรถไป 5 ปี สมมติว่าเขาผ่อนส่งไม่ได้ จะทำยังไง แล้วเปลี่ยนมือไม่ได้ แล้วรถไปคาอยู่ตรงไหนยังไง มันมีประเด็นรายละเอียดเยอะแยะมากมาย หรือว่าขึ้นเงินเดือน 1.5 หมื่นบาทของปริญญาตรี แล้วคนที่จบปริญญาตรี 5 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึง 5 ปีก่อนหน้านั้น เขาเงินเดือนยังไม่ถึงหมื่นห้าจะปรับให้เขามั๊ย อย่างนี้เป็นต้น เพราะ ฉะนั้นมันองคาพยพใหญ่ทั้งหมดที่นำเสนอแนวนโยบายประชานิยมไม่ใช่ทำง่ายๆ เพราะฉะนั้นมันจะกระทบไปหลายส่วน นี่คือสิ่งที่คิดว่าฝ่ายค้านควรที่จะดำเนินการตรวจสอบมากกว่า
Q : ฝ่ายค้านอย่างประชาธิปัตย์ควรเปลี่ยนบทบาทฝ่ายค้าน ที่มุ่งนำประเด็นการเมือง ปัญหาส่วนตัวมาโจมตี แต่ควรมุ่งเน้นตรวจสอบการทำนโยบายของรัฐบาล
A : ใช่ครับ แล้วประชาชนก็มีส่วนร่วม เพราะเขาจะได้หรือเสียประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลอันนี้ เพราะฉะนั้นจะเป็นเรื่องที่สามารถที่จะทำให้รัฐบาลจะอยู่หรือจะไปอยู่ตรงนี้ เลย ไม่ใช่อดีตนายกฯทักษิณหรอกครับ ผมว่า....ถ้าตีประเด็นให้แตก ตรงนี้จะสำคัญกว่า
Q : “ม็อบล้มรัฐบาล” ยังสามารถใช้ได้อยู่หรือไม่กับสถานการณ์ปัจจุบัน
A : ม็อบ...ถ้า เป็นเรื่องอดีตนายกฯทักษิณ ผมคิดว่าคงจุดม็อบยาก ไม่ง่าย แต่ว่าถ้าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ตามนโยบาย อันนี้พอคนที่เป็นมนุษย์คาดหวังว่าจะได้ประโยชน์แล้วบังเอิญไม่ได้ตามที่ผู้ บริหารสัญญาไว้ ตรงนี้ไม่มากก็น้อย เขาต้องเรียกร้องสิทธิ์ของเขา ถือเป็นสิทธิ์ เพราะไปสัญญากันไว้แล้ว ประชานิยมตอนเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นเขาหวังตรงนี้ เขาถึงไปเลือก พอทำให้เขาไม่ได้ ตรงนี้ถือว่าเป็นการจุดชนวนอันหนึ่งที่จะทำให้เกิดความไม่พอใจ การเรียกร้องกลุ่มต่างๆเกิดขึ้น
Q : รัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภาฯถึง 300 เสียง แต่ถ้าไม่สามารถเอาเอานโยบายที่ประกาศไว้กับประชาชนมาปฏิบัติได้ รัฐบาลก็มีโอกาสจะล้ม เสียงข้างมากก็ไม่มีความหมายอะไร
A : ในอดีตก็เป็นอย่างนั้นมาแล้วนี่ อดีตมีมากกว่า 300 เสียงตอนนี้อีก 377 ด้วยซ้ำไป ก็ยังอยู่ยาก อยู่แค่ 11 เดือนเท่านั้นเอง
Q : บทบาทนายกฯยิ่งลักษณ์ จะต้องเป็นไปในลักษณะใด
A : ต้อง ทำงานอย่างรวดเร็ว ต้องเป็นผู้บริหารราชการแผ่นดินจริงๆ ในแง่ที่ว่าสามารถสั่งการรัฐมนตรีต่างๆไปดำเนินการตามเป้าหมายที่วางไว้ ตรงนี้สำคัญรอการพิสูจน์ว่า ท่านสามารถเป็นผู้นำในตรงนี้ได้หรือไม่ ประการที่สอง นายกฯไม่เคยอยู่ในวงการราชการ ซึ่งวงการราชการมีความสลับซับซ้อนในตัวของตัวเองมาก สมัยก่อนถึงกับว่ามีพรรคราชการอยู่อีกพรรคหนึ่งด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นตรงนี้ถ้าท่านรู้จักใช้คน หมายความว่าทีมที่ปรึกษาต่างๆที่จะกลั่นกรองงานเข้าใจในระบบของราชการดี ก็จะทำให้การประสานงานระหว่างฝ่ายนโยบายกับฝ่ายปฏิบัติสามารถที่จะขับ เคลื่อนไปได้ แต่ถ้าทำตรงนี้ไม่ได้ก็จะเกิดลักษณะของเกียร์ว่าง
Q : ถ้าเปรียบเทียบการทำงานระหว่างคุณทักษิณที่จะรวมอำนาจมาอยู่ที่ตัวเองเพียง คนเดียว ในขณะที่นายกฯยิ่งลักษณ์จะแบ่งงานให้คนอื่นได้รับผิดชอบ จนกระทั่งถูกโจมตี ว่าเป็น “นายกฯคุณหนู”
A : ผมคิดว่าคงเกิดจากประสบการณ์ในอดีต เพราะเห็นอดีตนายกฯทักษิณท่านบ่นอยู่เรื่อยว่า สมัยก่อนท่านทำพลาดอยู่อย่าง เดียว คือเรื่องของการที่ท่านขยันทำงานมากไป ทำงานมุ่งไปข้างหน้าคนเดียวโดยไม่สนใจเรื่องการเมือง เขาคงจะแก้ตรงนี้ แต่ว่าทั้งหลายทั้งปวง เรื่องระบบการบริหารราชการแผ่นดินไม่ใช่ง่าย เพราะเป็นเรื่องของมุมมองในหลายมิติ เพราะ Stakeholder ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมันมีเยอะมาก นอกจากพี่น้องประชาชนแล้วยังมีส่วนอื่นอีกที่เป็น...อยู่ในตำแหน่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ภาคเอกชน ถึงแม้เป็นพี่น้องประชาชนแต่ก็สวมอยู่หลายหมวก หลายภาคส่วน การจะทำยังไงให้แต่ละภาคส่วนพอใจในระดับหนึ่งไม่ใช่เรื่อง่ายเลย Q : ในฐานะที่เคยเป็น “ก.ต.ช.” (กรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ) คำว่า “รัฐตำรวจ” จะกลับมาในรัฐบาลนี้หรือไม่
A : คงไม่หรอกครับ คืออย่างนี้ในทางตำรวจหลังจากมีพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติปี 2547 ก็มีการแบ่งอำนาจหน้าที่ค่อนข้างชัดเจน มี “ก.ต.ร.” มี “ก.ต.ช.” แล้วในระดับการบังคับบัญชาต่างๆเป็นไปตามลำดับชั้น แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเป็นห่วงซึ่งขณะนี้ คือเรื่องของการที่จะไปกำกับดูแล อันนี้สำคัญว่าถ้ากำกับดูแลดี ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป คือถ้าตึงเกินไปบางทีเขาจะเรียกว่า “จับแพะ” ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ แต่ถ้าหย่อนเกินไปในวงการตำรวจก็ไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเป็นกลยุทธ์ของการรบริหาร ซึ่งตรงนี้การที่นายกฯมอบให้ท่านรองนายกฯเฉลิม อยู่บำรุง ไปกำกับดูแล ท่านก็กำกับดูแลได้ส่วนหนึ่งในแง่ของก.ต.ร. แต่ในส่วนของก.ต.ช.ท่านนายกฯต้องเป็นประธานเอง เพราะกฎหมายไม่ได้เปิดโอกาสให้มอบอำนาจหน้าที่ให้รองนายกฯมาเป็นประธานได้ ดังนั้นท่านเองต้องดูตรงนี้พอสมควรทีเดียว
Q : ข้ออ้างของการที่รัฐบาลต้องการให้พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ (ดามาพงศ์) มานั่งในตำแหน่งผบ.ตร. คือการปราบปรามยาเสพติด ข้อกล่าวอ้างอย่างนี้ในที่ประชุมก.ต.ช. สามารถยกขึ้นมาใช้ในการพิจารณาตำแหน่งได้หรือไม่
A : ตอนที่ผมอยู่ในก.ต.ช. เวลาพิจารณาตำแหน่งผบ.ตร. เราดูในหลายมิติ 1.ใน เรื่องงานบริหาร 2.เรื่องการปราบปราม 3.เรื่องการเป็นที่ยอมรับของบุคลากร 2 แสนกว่านายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 4.อาจจะเป็นเรื่องของอาวุโส หลายๆองค์ประกอบด้วยกัน ในเรื่องของการปราบปรามยาเสพติดก็เป็นส่วนหนึ่งใน 4 หรือ 5 องค์ประกอบอย่างที่ว่า เพราะฉะนั้นการโยกย้ายผบ.ตร.คงต้องดูภาพรวม เพราะตำแหน่งผบ.ตร.นอกจากปราบปรามยาเสพติดแล้วยังมีหน้าที่อื่นๆอีกหลาย หน้าที่ที่จะต้องไปดำเนินการ


Thaiinsider Co., Ltd.

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง