หลักฐาน ส.ส.ชั่ว – ข้าราชการ เลว.ทั้งในทำเนียบ มหาดไทย ฯลฯ “รุมทึ้ง” สิ่งของบริจาคช่วยอย่างหน้าด้านที่สุด… ทั้ง ๆ ที่มีเงินส่วนตัว และเงินงบประมาณให้ซื้อ
ภาณุมาศ ทักษณา
หนังสือพิมพ์มติชน วันนี้ 2 พ.ย.54 พาดหัวข่าวการเมืองในหน้า 11 ว่า “มท.” เปิดบัญชี “ของบริจาค” “ส.ส.- หน่วยงานรัฐ” ขอไปอื้อ
เนื้อข่าวระบุว่า นาย พิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ โฆษกกระทรวงมหาดไทย (มท.)กล่าวถึงตัวเลขของบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในส่วนที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)รับมอบอุปกรณ์หนักและแจกจ่ายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ว่า
สิ่งที่ได้รับมอบจากเอกชนและประชาชน ประกอบด้วย เรือชนิดต่าง ๆ เครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก – ขนาดใหญ่ ท่อสูบน้ำพญานาค เครื่องปั่นไฟ จานดาวเทียม โทรทัศน์จอแบบ เสื้อชูชีพ ไปจนถึงสุขาชนิดต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบทะเบียนคุมยอดสิ่งของบริจาค ซึ่งมีการบริจาคทั้งจากภาคเอกชนและประชาชนทั่วไปนับร้อยราย
แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า สิ่งของบริจาคบางส่วน มีรายชื่อผู้ขอรับบริจาครายเดิม หรือมีชื่อที่ไม่ได้ระบุชัดเจน เช่น
ส.ส.กา รุณ , เลขาฯท่านเฉลิม, ทีมงาน ส.ส.สุชาติ(คุณอรนิช) โดยไม่ได้ระบุพื้นที่ช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังมีการระบุว่า “ลงบัญชี” โดยไม่ระบุชื่อผู้รับ หรือพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ อีกทั้งยังมีหน่วยงานของรัฐขอรับสิ่งของบริจาคโดยไม่ได้ระบุพื้นที่ช่วย เหลือ อาทิ
กระทรวงมหาดไทย เบิกท่อสูบน้ำพญานาค 6 อัน เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 6 เครื่อง,
กระทรวงอุตสาหกรรม เบิกท่อสูบน้ำพญานาค 13 อัน เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 13 เครื่อง,
ทำเนียบรัฐบาล เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 10 เครื่อง เครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก 10 เครื่อง เรือไฟเบอร์กลาส 30 ลำ,
สำนักนายกรัฐมนตรี เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 10 เครื่อง เรือไฟเบอร์กลาส 100 ลำ
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ที่ขอเบิกของบริจาคมากที่สุดคือ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 16 ชัยนาท รับท่อสูบน้ำพญานาค 40 อัน เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 40 เครื่อง เครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก 40 เครื่อง เรือ HDPE พาย 2 ที่นั่ง 30 ลำ เรือไฟเบอร์กลาส 20 ลำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า หน่วยงานของรัฐบาล ทำไมจึงมีการขอรับบริจาคสิ่งของที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่กำลังได้รับ ความเดือดร้อนและขาดแคลน ทั้งที่สามารถจะตั้งงบประมาณเบิกจ่ายได้เอง ทั้งนี้สิ่งของที่มีอยู่บัญชี ถูกเริ่มทยอยเบิกตั้งแต่วันที่ 18 – 26 ตุลาคมที่ผ่านมา
ในฐานะที่เป็นผู้สื่อข่าวที่เคยสัมผัสบรรยากาศทำนองนี้มาก่อน ผมขอตอบผู้สื่อข่าวของมติชนที่ตั้งข้อสังเกตท้ายข่าวว่า
…นี่คือวิธีการยักยอกทรัพย์สินที่ได้รับบริจาคมาอย่างหน้าด้านที่สุดของ ส.ส.ชั่ว และข้าราชการเลว ละครับ
ส.ส.ชั่วที่มาขอเบิกสิ่งของเหล่านั้นไป จะเอาไปเขียนป้ายชื่อตัวเองแปะเอาไว้หรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อนำไป “แจก” ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม ชาวบ้านย่อมเข้าใจโดยซื่อว่า ส.ส.ผู้นั้นคงควักกระเป๋าซื้อมาให้ด้วยความเมตตาสงสาร.. ชาวบ้านหลายคนคงไม่รู้หลอกว่า สิ่งของที่ ส.ส.ชั่วคนนั้นเอาไปจ่าย เบิกมาจากของที่ชาวบ้านเขาทำบุญมา
และ ข้าราชการเลว ก็ขอเบิกสิ่งของเหล่านั้นไป อาจจะเอาไปใช้เพื่อช่วยเหลือผู้ถูกน้ำท่วม หรือเอาไปให้ชาวบ้านก็ตาม ข้าราชการเลวเหล่านี้อาจถือโอกาสนำมาแสดงเป็นหลักฐานว่าได้ “ซื้อมา” ตามที่ “ตั้งเบิก”เอาไว้ พูดง่าย ๆ คือ เบิกเงินไปซื้อ แต่ไม่ต้องซื้อ เพราะเอาของที่เขาแจกมาสวมรอยแทน นั่นเอง
ผมเห็นข่าวสิ่งของบริจาคที่ตกค้างที่ ศปภ.ดอนเมือง แล้วมีใครออกมาตอแหลว่าเป็น เสื้อผ้าเก่า ๆ จะเอาไปซักก่อน แล้วจึงนำไปบริจาค แล้วอยากหัวเราะให้ฟันหัก
สมัยผมเป็นนักข่าวใหม่ ๆ เคยไปทำข่าวในศูนย์ทำนองนี้มาแล้วครับ ตอนนั้นในศูนย์ไม่รู้ว่าใครเป็นใครหรอกครับ มีทั้งข้าราชการ และอาสาสมัคร ไปเอาเสื้อผ้าและของบริจาคใส่ถุง
แต่ ก่อนที่จะหยิบเสื้อหรือกางเกงใส่ถุง มีผู้หญิงคนหนึ่งยกเสื้อมาทาบตัวเอง หรือดูเนื้อผ้าด้วยนะคุณ (ฮา) หากเห็นว่าตัวไหนยังใหม่ ดูมีราคาดี ก็จะซุกไว้ใกล้ ๆ ตูด เอ๊ย สะโพกของตัวเอง พอไม่มีใครมองก็จะแอบใส่ถุงกระดาษสีน้ำตาล(เดี่ยวนี้ถุงแบบนี้ไม่มีให้เห็น แล้วครับ)
รุ่งขึ้น ผมเอาลงข่าว ปรากฏว่า ถูกด่าเปิง… ผมถูกด่านะครับไม่ใช่ยัยคนนั้น(ฮา) และหน่วยงานนั้นก็ห้ามผมเข้าไปทำข่าวอีก
อย่าให้บอกเลยว่าหน่วยไหน เพราะเหตุการณ์ผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว และยัยคนนั้นก็อาจจะตายไปแล้วก็ได้ – ผมแค่ยกมาเป็นตัวอย่างว่า คนเลวมีจริง ๆ ครับ
ข่าวชิ้นนี้ จึงไม่ต่างไปจาก หลักฐาน หรือ “ใบเสร็จ” ที่นักการเมืองชั่ว และข้าราชการเลว คงปฏิเสธไม่ได้ และเรื่องนี้ไม่ควรจบแค่นี้นะครับ
ฝาก นักข่าวมติชนที่ทำข่าวนี้ “จิก” ต่อไปครับ และขยายผลไปให้ถึง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและคิดมิชอบในวงราชการ (ป.ป.ช.) ด้วยนะครับ
กระชากหน้ากาก – ลากไส้ ไอ้หรืออีเหล่านั้นออกมาประจานให้ได้ครับ เผลอ ๆ ข่าวนี้อาจทำให้คุณได้รางวัลฟูลิเซอร์ก็ได้นะครับ ทำเป็นเล่นไป.