เปิดอีกข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างในกองทัพถึงคิว เครื่องสนาม เครื่องแบบ พบ บ.เครือข่าย 5 เสือค้าอาวุธกวาด 3 ปี 1,000 ล้าน ผู้ถือหุ้นโยงบริษัทขายเสื้อเกราะ รถถัง เป็นคู่ค้ากับทหารมานับสิบปี
      น่าสังเกตว่าการจัดซื้อจัดจ้างในกองทัพมักตกอยู่ในอุ้งมือผู้ประกอบการราย ใหญ่ที่มีคอนเนกชันกับบุคคลในกองทัพ คราวนี้ลองมาดูการจัดซื้อเครื่องสนาม เสื้อผ้า และ เครื่องแบบ กันบ้าง
       ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนฯ (www.tcijthai.com) ตรวจสอบ พบว่า ในรอบ 3 ปี (2551-2553) ที่ผ่านมาจัดซื้อจากรายใหญ่เพียง 4 ราย
     1. บริษัท เสรีชัยยุทธภัณฑ์ จำกัด จำนวน  53  ครั้งวงเงิน 1,043.6 ล้าน บาท
     2. บริษัท ลัทธพลเทรดดิ้ง  จำกัด  จำนวน 21  ครั้ง วงเงิน 855.4 ล้านบาท   อาทิ จัดหาเครื่องแบบสนามอาสาสมัครทหารพราน  ผ้าสีพรางรองเท้าคอมแบท  ฯลฯ
     3.บริษัท ไทยเครื่องสนาม (2525) จำกัด จำนวน 46 ครั้ง วงเงิน 703.1 ล้านบาท     อาทิ กระโจม กางเกงกีฬา กางเกงลำลอง  เปลสนาม ที่นอน  พลั่วสนาม หมวกทรงอ่อน  ฯลฯ
     4.บริษัท ไทยทูเวย์ แฟบริค จำกัด  จัดหา เสื้อยืดคอวี เสื้อกันหนาว ถุงเท้า  21 ครั้ง 388 ล้านบาท
      จากการตรวจสอบพบว่า   บริษัท ลัทธพลเทรดดิ้ง  จำกัด จด ทะเบียนวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2550 ทุน 3 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่   111 ซอยรามอินทรา 83 ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพฯ  นายสุรศักดิ์ โตรุ่งเลิศ ถือหุ้นใหญ่
      บริษัท ไทยเครื่องสนาม (2525) จำกัด  จดทะเบียนวันที่  22 เมษายน 2526 ทุน 2,500,000 บาท  ที่ตั้งเลขที่ 494 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ   นายประดิษฐ์ เลิศรัตนานนท์   นายพีรพล ชวลิตมณเฑียร  นางบุษบา เลิศรัตนานนท์ เป็นกรรมการ และ ถือหุ้นใหญ่
       บริษัท ไทยทูเวย์ แฟบริค จำกัดจดทะเบียนวันที่  7 กันยายน 2524  ทุน 5 ล้านบาทที่ตั้งเลขที่ 50/103 หมู่ที่ 1 ซอยเลิศพัฒนาใต้ ถนนจอมทอง แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กรุงเทพฯ นายเรืองยศ อาริยะเรืองกิจ และเครือญาติ ถือหุ้นใหญ่

        บริษัท เสรีชัยยุทธภัณฑ์ จำกัด จดทะเบียนวัน ที่3 มิถุนายน 2529 ทุน 5 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 55/20 หมู่ที่ 5 ซอยรณสิทธิพิชัย ถนนสนามบินน้ำ ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรีมีนายชัยยศ  นายศักดิ์ชัย  ยอดวานิช (กลุ่มนนทบุรีฮอนด้าคาร์ส)  เจ้าของ
        นายชัยยศ  นายศักดิ์ชัย  ยอดวานิช นอกจากเป็นเจ้าของบริษัท เสรีชัยยุทธภัณฑ์ จำกัด ยังเป็นเจ้าของเดียวกับ บริษัท ช.ไพศาล จำกัด ผู้ขายเสื้อเกราะรายใหญ่ให้กองทัพ
        จากการตรวจสอบพบว่า นายชัยยศเคยทำธุรกิจ นายกิตติ กุลหิรัญ และ นายหิรัญ กุลหิรัญ  ชื่อ หจก. สหชัยอุตสาหกรรม จดทะเบียนวันที่  25 สิงหาคม 2510  ทุน  150,000  บาท  ที่ตั้งเลขที่  62/5 ซอยจารุสงเคราะห์ ถนนดินแดง แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
       นอกจากนี้จดทะเบียนทำธุรกิจค้ายางร่วมกับ นายกิตติ กุลหิรัญ  และ นายหิรัญ กุลหิรัญ ในชื่อ บริษัท ชัยเสรีอิมปอร์ต จำกัด  จดทะเบียนวันที่ 15 กรกฎาคม 2517  ที่ตั้งเลขที่ 41/1 หมู่ที่ 1 ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
       นายหิรัญ กุลหิรัญ ต่อมาจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทขายอาวุธชื่อ บริษัท ชัยเสรี (กรุงเทพ)  จำกัด เมื่อ วันที่ 26 มีนาคม 2529  ทุน 2 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 1/1 ซอยยาสูบ 1 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ และเป็นเจ้าของ
       ต่อมาได้ก่อตั้งบริษัทค้าอาวุธชื่อ บริษัท  ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัด  เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2533 ทุน 150 ล้านบาท  ที่ตั้งเลขที่ 41/1 หมู่ที่ 1 ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี  (อ่านรายเอียดในตาราง)
       บริษัท ชัยเสรี (กรุงเทพ) จำกัด และ บริษัท ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์ รับเบอร์ จำกัด  เป็น ผู้จัดหาชิ้นส่วนอะไหล่รถถัง ปืน กระสุนปืนรายใหญ่ที่สุดของกองทัพ  ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ประมาณ 90 ครั้งวงเงิน  1,253 ล้านบาท
       ตัวเลขเฉพาะ 3 ปีจัดหาอะไหล่ 47 ครั้ง (สัญญา)  จำนวน 421.4 ล้านบาท  แบ่งออกเป็นปี 2551 จำนวน  12 ครั้ง วงเงิน 111.6 ล้านบาท ปี  2552 จำนวน 13 ครั้ง วงเงิน 163 ล้านบาท ปี 2553 จำนวน 22 ครั้ง วงเงิน 146.7 ล้านบาท
       เห็นได้ว่า บริษัท เสรีชัยยุทธภัณฑ์ จำกัดผู้ขายชุดทหารเครื่องสนาม  บริษัท ช.ไพศาล จำกัดผู้ขายเสื้อเกราะ บริษัท ชัยเสรี (กรุงเทพ) จำกัด และ บริษัท ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์ รับเบอร์ จำกัดผู้ขายอะไหล่รถถัง มีความเชื่อมโยงเกี่ยวกันและเป็นคู่ค้ากับกองทัพมานาน
                         ........

      โครงข่ายผู้ถือหุ้น หจก. สหชัยอุตสาหกรรม  ,บริษัท ชัยเสรีอิมปอร์ต จำกัด,บริษัท ชัยเสรี (กรุงเทพ)  จำกัด, บริษัท  ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์ รับเบอร์ จำกัด  ,บริษัท ช.ไพศาล จำกัด

หจก. สหชัยอุตสาหกรรม
จดทะเบียน 25 ส.ค.2510
บริษัท ชัยเสรีอิมปอร์ต จำกัด
จดทะเบียน 15 ก.ค. 2517
 นายกิตติ กุลหิรัญ นายกิตติ กุลหิรัญ
นายหิรัญ กุลหิรัญ  นายชัยยศ ยอดวานิช
นายชัยยศ ยอดวานิช นายหิรัญ กุลหิรัญ

( ณ วันที่ 20 ต.ค.2544)


บริษัท ชัยเสรี (กรุงเทพ)  จำกัด
จดทะเบียน 26 มี.ค. 2529
บริษัท  ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์ รับเบอร์ จำกัด
จดทะเบียน 14 พ.ย. 2533
บริษัท ช.ไพศาลจำกัด

จดทะเบียน 1 ส.ค. 2539
นางนพรัตน์ กุลหิรัญ นายชาญเวช กุลหิรัญ นายประชา ยอดวานิช
นายชาญชัย กุลหิรัญ นายกานต์ กุลหิรัญ นาย ชัยยศ ยอดวานิช
นายหิรัญ กุลหิรัญ นาย หิรัญ กุลหิรัญ นาย ประวิทย์ ยอดวานิช
นายชาญวิทย์ กุลหิรัญ นายชาญวิทย์ กุลหิรัญ นาย ศักดิ์ชัย ยอดวานิช
(  ณ วันที่ 30 เม.ย.2554)   ( ณ วันที่ 30 เม.ย.2554)   ( ณ วันที่ 30 เม.ย.2554)  
ที่มา:กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ,ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนฯ   (www.tcijthai.com) รวมรวม 



เจาะกองทัพ:บิ๊กลอตรถยนต์ 6.5 พันล้าน หลักฐานมัดพ่อค้าใหญ่ก๊วนเดียวกัน

รถหุ้มเกราะ
ตรวจสอบการจัดซื้อในกองทัพ คราวนี้ถึงคิวรถยนต์บรรทุกและรถมอเตอร์ไซค์ มูลค่า 6.5 พันล้าน พบข้อมูลลึก 2 ผู้ค้ารายใหญ่เครือข่ายเดียวกัน โยงเม็ดเงินขายอาวุธนับร้อยล้านในศูนย์รักษาความปลอดภัย บก.สส.
         ตอนที่แล้วกล่าวถึงการจัดซื้อเครื่องสนาม และเครื่องแบบของกองทัพบกที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามักจัดซื้อจัดจ้างจากเอกชน ซ้ำๆกันซึ่งเมื่อตรวจสอบก็พบว่ามีความเชื่อมโยงกับผู้ค้าอาวุธรายใหญ่ในกอง ทัพ คราวนี้มาดูการจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์ มอเตอร์ไซด์กันบ้าง
        ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนฯ (www.tcijthai.com) ตรวจ สอบพบว่า ในรอบ 3 ปี (2551-2553) กองทัพบกทำสัญญาจัดซื้อรถยนต์ขนาดต่างๆเพื่อใช้ปฏิบัติภารกิจของกองทัพโดย ใช้งบประมาณ 6,558.8 ล้านบาท ดังนี้
         รถยนต์บรรทุก 4*4 แบบ 50 จัดซื้อจาก  บริษัท ปรีชาถาวร อุตสาหกรรม จำกัด   จำนวน 3 ครั้ง  727 คัน และ ผลิตชิ้นส่วนอื่นๆ 9 ครั้ง  รวม756.2 ล้านบาท  (ในจำนวนนี้ร่วมกับ บริษัท กันโน่ ซิสเต็มส์ อินทีเกรชั่น จำกัดจัดหาอะไหล่รถเกราะ วี -150 จำนวน  3 ครั้ง)

        รถยนต์ขนาด 2 ตันครึ่ง   จัดซื้อจาก
      1.บริษัท อิทธิพรอิมปอร์ตจำกัด  (นายวีรชัย เตชะอิทธิพร และเครือญาติเจ้าของ)วันที่ 30 กันยายน 2552  คัน  1,474 คัน วงเงิน 4,994.6 ล้านบาท (ยุครัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์)   และ วันที่ 24 ธันวาคม 2552 จำนวน 79 คัน วงเงิน 273.7 ล้านบาท
       2.บริษัท โต้โยต้ากรุงเทพยนต์จำกัด4 ครั้ง 167 คัน วงเงิน  132.4  ล้านบาท    
       3.บริษัท ยานยนต์(ประเทศไทย) จำกัด  รถบรรทุกปกติขนาดเล็กยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น rodeo LSจำนวน 22(ปฏิบัติภารกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้)4 ครั้ง 66 คัน วงเงิน 45.2 ล้านบาท

       รถยนต์บรรทุก ขนาด 3-5 ตัน และรถบรรทุกน้ำ  จัดซื้อจาก บริษัท ฮีโน่มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย)จำกัด  13 ครั้ง  260 คัน วงเงิน 356.7 ล้านบาท

      ประเภทยางรถยนต์ ในรอบ 3 ปี โรงงานซ่อมสร้างรถยนต์ทหารและกรมสรรพาวุธทหารบกผูกขาดกับหจก.ที แอล เอ็ม  (นายอัฐ อุตสาหกิจอำนวย นายเชิดศักดิ์ อุตสาหกิจอำนวยเจ้าของ) 50 ครั้ง วงเงิน 293.2 ล้านบาท    
      รถมอเตอร์ไซด์  จัดซื้อจาก บริษัท ไทยเมเจอร์โปรเจค  จำกัด   ยี่ห้อ คาวาซากิ ขนาด 123 ซี.ซี.จำนวน 4 ครั้ง 631 คัน วงเงิน 25.2 ล้านบาท
     ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า  บริษัท ไทยเมเจอร์โปรเจค  จำกัด   จด ทะเบียนวันที่  16 กรกฎาคม 2535  ทุน 5 ล้านบาท   ขายสินค้าอุปโภค บริโภคและบริการซ่อมรถยนต์  ที่ตั้งเลขที่ 43/1 หมู่ที่ 4 ซอยอ่อนนุช 65 ถนนสุขุมวิท 77 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ   ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2552  นางสุภาวลี อธิวรกุลถือหุ้น 98.8%
      นอกจากเป็นผู้จัดหารรถมอเตอร์ไซค์ บริษัท ไทยเมเจอร์โปรเจค  จำกัดยังได้รับว่าจ้างจัดหาชิ้นอะไหล่รถยนต์บรรทุกอีก 27 ครั้ง 162.7ล้านบาท

      ส่วนการจัดหา “ชิ้นส่วนอะไหล่” รถยนต์บรรทุกนั้นกองทัพบกทำสัญญากับจากเอกชน 11 ราย
      1.บริษัท ชานซ์ อินเตอร์ บิสเน็ซ จำกัดจัดหาอะไหล่  39 ครั้ง 290 ล้านบาท
      2.หจก. ส.สยามพานิชจัดหาชิ้นส่วนซ่อมรถยนต์บรรทุก28 ครั้ง 266.1 ล้านบาท
      3.บริษัท ไทยเมเจอร์โปรเจค  จำกัดจัดหาอะไหล่ 27 ครั้ง 162.7ล้านบาท
      4.บริษัท เจนเนอรัล โกลบอล จำกัดจัดหาอะไหล่   5  ครั้ง 23 ล้านบาท
      5.บริษัท ธนพัฒน์ ออโต้ เซ็นเตอร์ จำกัด(รยบ. 1 1/4 ตัน) 4 ครั้ง 22.8 ล้านบาท
      6.บริษัท นันทเทรด จำกัด  7 ครั้ง 62. ล้านบาท
      7.บริษัท นีโอ-เทค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  จัดหาชิ้นส่วนอะไหล่ รถฮัมวี 4 ครั้ง 28.6 ล้านบาท
      8.บริษัท เพาเวอร์เอ็นจิเนียริ่ง (2003) จำกัด  จัดหาชิ้นส่วนซ่อม รยบ. 1 1/4 ตัน ฮัมวี่   จำนวน 5 ครั้ง 13.7 ล้านบาท
      9.บริษัท เอกรัชต์ จำกัดจัดหาชิ้นส่วนซ่อมรถยนต์ จำนวน 9 ครั้งวงเงิน  52.1 ล้านบาท
      10.บริษัท ไอเดียล แอสโซซิเอทส์ กรุ๊ป จำกัด  จัดหาชิ้นส่วนซ่อมรถยนต์  จำนวน 13 ครั้ง 64 ล้านบาท
      11.หจก.พัฒนาอุปกรณ์จัดหาชิ้นส่วนซ่อมรถยนต์ 10 ครั้ง 74.4 ล้านบาท
       ในจำนวนนี้บางรายเป็นคู่ค้ากับกองทัพประเภทอาวุธปืนและเครื่องกระสุนด้วย
       กล่าวสำหรับบริษัท ปรีชาถาวรอุตสาหกรรม จำกัดจด ทะเบียนวันที่ 7 พฤษภาคม 2533  ทุน 30 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 28/4 หมู่ที่ 4 ถนนเอกชัย ตำบลนาดี อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร   ณ วันที่ 30 เมษายน 2554 นายเอกชัย ปูชนียกุล  นายชัยณรงค์ ปูชนียกุลถือหุ้นใหญ่
       ขณะที่ บริษัท กันโน่ ซิสเต็มส์ อินทีเกรชั่น จำกัดพันธมิตร บริษัท ปรีชาถาวร อุตสาหกรรม จำกัด   จดทะเบียนวันที่ 14 กันยายน 2542   ทุน  1 ล้านบาท ประกอบธุรกิจขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รักษาความปลอดภัย ติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย ที่ตั้งเลขที่ 76/47-49 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ณ วันที่ 30 เมษายน 2554  นายสรัณย์ธร ดวงดีกมลทัศน์  ถือหุ้นใหญ่  นางพิมพ์ผกา ดวงดีกมลทัศน์เป็นกรรมการ
      จากการตรวจสอบพบว่าบริษัท กันโน่ ซิสเต็มส์ อินทีเกรชั่น จำกัดยัง ทำสัญญาขายเครื่องตรวจวัตถุระเบิดด้วยรังสีเอ็กซเรย์ควบคุมการทำงานด้วย คอมพิวเตอร์ยี่ห้อ ฟอกซ์เรย์  ประเทศ อิสราเอล ให้กองทัพบก 3 เครื่อง5.1 ล้านบาท
      จากการตรวจสอบยังพบอีกว่า  นายชัยณรงค์ ปูชนียกุล แห่งบริษัท ปรีชาถาวรอุตสาหกรรม จำกัด ทำธุรกิจร่วมกับ นายกรัณย์ธร ดวงดีกมลทัศน์ แห่ง บริษัท กันโน่ ซิสเต็มส์ อินทีเกรชั่น จำกัด  ในชื่อ บริษัท โอ๋ แอนด์ กัน จำกัด  จดทะเบียนวันที่  30 มีนาคม 2543  ที่ตั้งเลขที่ 91 ซอยลาดพร้าว 110 ถนนลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ
      แสดงให้เห็นว่า 2 บริษัทแท้จริงแล้วคือกลุ่มเดียวกัน
     ประการสำคัญคู่ค้ากลุ่มนี้ยังเกี่ยวข้องกับการขายอาวุธและอุปกรณ์อื่นให้ ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กองบัญชาการทหารสูงสุดอีกด้วย
      ต้องติดตามกันต่อไป 
     ….
               การจัดซื้อจัดจ้างที่กองทัพบกทำกับ บริษัท กันโน่ ซิสเต็มส์ อินทีเกรชั่น จำกัด

รายการ วงเงิน (บาท) วันทำสัญญา
1.เครื่องตรวจวัตถุระเบิดด้วยรังสีเอ็กซเรย์ควบคุมการทำงานด้วย คอมฯยี่ห้อ ฟอกซ์เรย์อประเทศอิสราเอล 3 เครื่อง 5,160,000 26 ก.ย. 2551
2.จ้างซ่อมเครื่องเพิ่มเพลาขับรถเกราะ วี-150 จำนวน113 เครื่อง 50,751,000 30 ก.ย. 2552
3.ซื้อขายชิ้นส่วนซ่อมระบบตัวถัง สำหรับรถเกราะ วี-150จำนวน 113 คัน รวม 37 รายการ 8,260,000 30 ก.ย. 2552
4.ซื้อขายชิ้ส่วนซ่อมระบบตรวจการณ์ ช่อทางเข้า-ออกสำหรับรถเกราะ วี-150 จำนวน 113 คัน รวม 34 รายการ 14,700,000 30 ก.ย. 2552
5.ซื้อขายชิ้นส่วนซ่อมระบบบังคับเลี้ยว สำหรับรถเกราะวี-150 จำนวน 113 คัน รวม 81 รายการ 29,000,000 30 ก.ย. 2552
 หมายเหตุ:รายการที่ 3-5 ทำร่วมกับบริษัทปรีชาถาวรอุตสาหกรรม จำกัด



เจาะกองทัพ:เปิดตัวบริษัทไทย-อินเดียค้าอาวุธปราบม็อบ

เจาะลึกจัดซื้ออาวุธกองทัพ เปิดชื่อพ่อค้าใหญ่หุ้นส่วนคนอินเดียขายอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน หุ่นยนต์ เครื่องเก็บกู้วัตถุระเบิด พบ 1 รายคู่ค้าหน่วยราชการไทยเพียบ
     การจัดซื้ออุปกรณ์ควบคุมฝูงชนของกองทัพในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาผ่าน 2 บริษัท
     1. บริษัท ยี.เอ็ช.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
     2.  บริษัท พรีซิพาร์ท จำกัด
       ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนฯ (www.tcijthai.com)ตรวจสอบ พบว่า กองทัพบกจัดซื้อผ่าน บริษัท ยี.เอ็ช.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  จำนวน 27ครั้ง วงเงิน   431,176,915 บาท  อาทิ  ยุทโธปกรณ์การควบคุมฝูงชน  วันที่ 3 ก.ค. 2552   วงเงิน 29.4 ล้านบาท  ,วันที่ 30 มิถุนายน 2553 วงเงิน 22.5 ล้านบาท ม ลูกระเบิดขว้างแก๊สน้ำตาวันที่ 30 ส.ค. 2553 วงเงิน 13.8 ล้านบาท  ,หน้ากากป้องกันสารเคมี-ชีวะ ยี่ห้อAVONรุ่น C 50 ของบริเตนใหญ่และไอแลนด์เหนือเครือแคนนาดา  วันที่ 29 ก.ย.2553 วงเงิน 36.3 ล้านบาท เป็นต้น
      บริษัท พรีซิพาร์ท จำกัดจัดหากระสุนยาง  ,ชุดอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน  9 ครั้ง วงเงิน 110.6 ล้านบาท   อาทิ กระสุนลูกซองยาง 50,000 นัด วันที่ 21 มิ.ย. 2553  วงเงิน 4 ล้านบาทท ,วันที่ 16 ก.ค. 2553 จำนวน 50,000 นัด 4 ล้านบาท  ลอตใหญ่สุด จัดซื้อยุทโธปกรณ์เพื่อปฏิบัติภารกิจ รักษาความสงบวันที่ 17 มี.ค.2553 วงเงิน 26.6 ล้านบาท  เป็นต้น
       จากการตรวจสอบพบว่าบริษัท ยี.เอ็ช.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 5 ซอยสุขุมวิท 30 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ  นายซารับยิตซิงห์ สัจจเทพ  นายซัตวินเดอร์ซิงห์  สัจจเทพ  ชาวไทย นายกูรมัคซิงห์ สัจจเทพ  นางมินเดอร์กอร์ สัจจเทพ  ชาวอินเดีย ถือหุ้นใหญ่  เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และผู้ค้าอาวุธรายใหญ่ให้หน่วยราชการหลายแห่ง
       ขณะที่บริษัท พรีซิพาร์ท จำกัดประกอบกิจการผลิต ชิ้นส่วนยานยนต์ จดทะเบียนวันที่ 14 มีนาคม 2531  ทุน  33.6  ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่  933 หมู่ที่ 15 ถนนเทพารักษ์ ตำบลบางเสาธง อำเภอกิ่งอำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการพันตรี ทรงพล เอี่ยมบุญฤทธิ์กรรมการผู้มีอำนาจ น.ส.ลดาวัลย์ อัศวะประภา ( บริษัท ฐิติพล จำกัด)  นายบุญหาญ อู่อุดมยิ่ง  นายคมกาจ ประกอบผล  นายไพโรจน์ บุพพัณหสมัย  นายหิน นววงศ์  ถือหุ้นใหญ่ เป็นการรวมตัวของนักธุรกิจจากหลายกลุ่ม ในจำนวนนี้ บริษัท กันยงอีเลคทริก จำกัด (มหาชน)บริษัท ซาน มิเกล เบียร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผ่านนาย จักก์ชัย พานิชพัฒน์  ผู้ถือหุ้นรายหนึ่ง

       สำหรับหุ่นยนต์ – เครื่องเก็บกู้วัตถุระเบิด  กองทัพจัดซื้อ จากเอกชน 2 ราย คือ บริษัท ดี.บี.3299 จำกัด   หุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิด (BOB-3 )ยี่ห้อ BOB-3 จำนวน 9 ชุด1,343,385 บาท  ( 26 ก.ย.2551)  และ บริษัท กันโน่ ซิสเต็มส์ อินทีเกรชั่น จำกัด เครื่องตรวจวัตถุระเบิดด้วยรังสีเอ็กซเรย์ควบคุมการทำงานด้วย คอมฯยี่ห้อ ฟอกซ์เรย์  ประเทศอิสราเอล 3 เครื่อง5.1 ล้านบาท
       บริษัท ดี.บี.3299 จำกัด  เพิ่งจดทะเบียนวัน ที่17 ตุลาคม 2550  ทุน 1 ล้านบาท ประกอบกิจการค้า และผลิตเครื่องตัดสัญญาณรีโมท แบบพกพาแบบติดตั้งยานพาหนะที่ตั้งเลขที่ 72/43 หมู่ที่ 3 ชั้น 3-4 ถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี  ณ วันที่ 30 เมษายน 2554  นางสาวดารณี บ่อขำ   นางทิพาพร สุดจิตร์  นายอนุวัฒน์ วันทรัพย์  ถือหุ้นใหญ่  (น่าสังเกตว่าได้รับการจัดซื้อหลังก่อตั้งบริษัทประมาณ 1 ปี)
     บริษัท กันโน่ ซิสเต็มส์ฯถ้าจำกันได้ คือผู้ค้ารถบรรทุกรายใหญ่ให้กองทัพนั่นเอง
                                                           ….
                                            
                             รายการจัดซื้อผ่าน บริษัท ยี.เอ็ช.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

รายการ วงเงิน              (บาท) วันทำสัญญา
ลูกระเบิดขว้างควันสีดำต่างๆจำนวน 6 รายการ 24,918,660 25 มี.ค. 2551
ลูกระเบิดขว้างสีต่างๆ และพลุสัญญาณพื้นดินร่มชนิดต่างๆ จำนวน 8 รายการ 19,954,020 27 มี.ค. 2551
ลูกระเบิดยิงจากเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. 19,942,400 15 พ.ค. 2551
ชุดนิรภัยเก็บกู้วัตถุระเบิด รุ่น EOD9จำนวน 1 รายการ 22,455,000 25 ก.ย. 2551
ยุทโธปกรณ์การควบคุมฝูงชนจำนวน 4 รายการ 29,409,800 3 ก.ค. 2552
ลูกระเบิดขว้างควันสีม่วง ฯจำนวน 5 รายการ 19,991,730 24 มี.ค. 2553
ยุทโธปกรณ์ควบคุมฝูงชน 2 รายการ 22,516,000 30 เม.ย. 2553
ลูกระเบิดแก๊สน้ำตา 838 นัด 2,229,450 27 พ.ค. 2553
ลูกระเบิดขว้างแก๊สน้ำตาประเภท 5 สายวิทยาศาสตร์จำนวน 5,000 ลูก 13,800,000 30 ส.ค. 2553
หน้ากากป้องกันสารเคมี-ชีวะ ยี่ห้อAVONรุ่น C 50 ของบริเตนใหญ่และไอแลนด์เหนือเครือแคนนาดา จำนวน 1,500 หน้า 36,330,000 29 ก.ย. 2553
ลูกระเบิดยางยิงแก๊สน้ำตา ขนาด 38 มม.จำนวน 2 รายการ 10,437,095 30 ก.ย. 2553
พลุสัญญณเครื่องบินดาวคู่แดง-แดง,เหลือง-เหลือง,เขียว-เขียวและพลุสัญญาณเครื่องบินดาวเดี่ยวแดง,เหลือง,เขียวฯ 19,937,160 30 ก.ย. 2553
ที่มา: ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนฯ (www.tcijthai.com)  รวบรวม

                                       รายการจัดซื้อผ่านบริษัท พรีซิพาร์ท จำกัด

รายการ วงเงิน                    (บาท) วันทำสัญญา
ชุดควบคุมฝูงชน 3 รายการ 9,050,640  5 มิ.ย. 2551
เครื่องช่วยฝึก(เครื่องให้เสียงเทียม)จำนวน 12 รายการ 4,554,800 26 ก.ย. 2551
ยุทโธปกรณ์ควบคุมฝูงชน จำนวน 1 รายการ 3,906,000 3 ก.ค. 2552
กระสุนยางทรงกลม ขนาด32 มิลลิเมตร 3,675,000 10 ก.ค. 2552
เครื่องช่วยฝึก 12 รายการ 1,116,250 30 ก.ย. 2552
ยุทโธปกรณ์ควบคุมฝูงชน จำนวน 2 รายการ 53,777,000 15 ก.พ. 2553
ยุทโธปกรณ์เพื่อปฏิบัติภารกิจ รักษาความสงบจำนวน 4 รายการ 26,617,500 17 มี.ค. 2553
กระสุนลูกซองยาง 50,000 นัด 4,000,000 21 มิ.ย. 2553
กระสุนซองยาง 50,000 นัด 4,000,000 16 ก.ค. 2553
    ที่มา: ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนฯ (www.tcijthai.com)  รวบรวม

เจาะกองทัพ:โฉมหน้า บ.ขุมข่ายนักการเมือง-ตระกูลดัง เอี่ยวงบฯจัดซื้อทัพเรือ 1.5 หมื่นล้าน 

เปิดโฉมหน้าบริษัทค้าอาวุธใหญ่เครือข่ายนักการเมือง นักธุรกิจตระกูลดัง เอี่ยวงบฯจัดซื้อจัดจ้างในกองทัพเรือ 1.5 หมื่นล้าน ขาใหญ่ซ่อม ฮ.กองทัพบกโผล่ จับตา!นายหน้ากลุ่มไหนเข้าวินจัดซื้อเรือดำน้ำ ?
      ในขณะที่กองทัพเรือพยายามอย่างเต็มที่ในการของบประมาณสนับสนุนโครงการจัด ซื้อเรือดำน้ำจากประเทศเยอรมัน หากลองมาดูการใช้งบประมาณในการจัดซื้ออาวุธ อะไหล่เฮลิคอปเตอร์และเครื่องมือต่างๆในช่วงที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง?
     ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนฯ (www.tcijthai.com) ตรวจสอบพบว่า ในช่วง 3 ปี (            2551-2553      ) กองทัพเรือทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับเอกชน  3,249 สัญญา วงเงิน  15,558ล้านบาท แบ่งเป็น
     ปีงบประมาณ 2551  (1 ต.ค.2550-30 ก.ย.2551)  จำนวน 945 สัญญา วงเงิน 4,092.3 ล้านบาท
     ปีงบประมาณ 2552    จำนวน 1,197 สัญญา วงเงิน  6,211.6 ล้านบาท
     ปีงบประมาณ 2553   จำนวน  1,107 สัญญา วงเงิน   5,254.1 ล้านบาท

       ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนฯ (www.tcijthai.com) ตรวจสอบพบว่า ในส่วนของการจัดซื้ออะไหล่-ซ่อมบำรุงเฮลิคอปเตอร์ ตกอยู่ในมือผู้ค้ารายใหญ่ 3 ราย คือ บริษัท  มาร์ช เอวิเอชั่น  จำกัด  บริษัท เมเจอร์ แอร์โร บิสิเนส จำกัด  และ  บริษัท ศรีวิวัฒน์ แอนด์ พาร์ทเนอร์จำกัด  1 รายคือ บริษัท โรยัลสกาย จำกัด  เป็นผู้ค้าเฮลิคอปเตอร์รายใหญ่ของกองทัพบก อีก 3รายได้รับว่าจ้างรองลงมา   กล่าวคือ

       1. บริษัท  มาร์ช เอวิเอชั่น  จำกัด  ได้รับว่าจ้างจากศูนย์ส่งกำลังบำรุงฐานทัพเรือสัตหีบ ชลบุรี มากสุด   91 ครั้ง วงเงิน 276.9 ล้านบาท  อาทิ อุปกรณ์เครื่องยนต์เครื่องบิน  ,อะไหล่ระบบไฟฟ้าเครื่องบินตรวจชี้เป้า  ,อะไหล่ซ่อมบำรุงระบบโครงสร้างอากาศยานเครื่องบินลำเลียง  ,อะไหล่ระบบโครงสร้างอากาศยานเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบที่ 3 (BELL-214ST)  ,อะไหล่รถสะเทินน้ำสะเทินบก  ,อะไหล่เครื่องบินต่อต้านเรือผิวน้ำมอะไหล่เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง แบบที่ 4 (S-76B) ,อะไหล่ระบบโครงสร้างเครื่องบิน F-27 MK200

       2.บริษัท เมเจอร์ แอร์โร บิสิเนส  จำกัด  52  ครั้ง  วงเงิน 151.9 ล้านบาท(ส่วน มากศูนย์ส่งกำลังบำรุงฐานทัพเรือสัตหีบ ชลบุรี)   อาทิ อะไหล่ระบบเครื่องยนต์เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง   ,อะไหล่ซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้าอากาศยานเครื่องบินต่อต้านเรือผิวน้ำ  ,อะไหล่ระบบไฟฟ้าอากาศยานเครื่องบินตรวจการณ์ชี้เป้า  ,อะไหล่ระบบไฟฟ้าเฮลิคอปเตอร์

      3.บริษัท ศรีวิวัฒน์ แอนด์ พาร์ทเนอร์จำกัด (กลุ่มนายวิวัฒน์ พัฒโนดม )  จำนวน  28 ครั้ง วงเงิน  89.4 ล้านบาท

      4.บริษัท โรยัลสกาย จำกัด จำนวน  4 ครั้ง วงเงิน  30.2 ล้านบาท  (เข้ามาเป็นคู่สัญญากับกองทัพเรือในช่วงปี 2553)    อาทิ อะไหล่ และซ่อมบำรุง เฮลิคอปเตอร์ BELL-212 เป็นต้น

      5.บริษัท เอวีเอชั่น เซอร์วิส  จำกัด(นางธวัลพร อารีจิตรานุสรณ์ทำ ธุรกิจนายหน้า  และ นายเรอเน่ โจเอล มารี โบเชอร์  สัญชาติฝรั่งเศส ถือหุ้นใหญ่)จำนวน 5 ครั้ง วงเงิน 39.8 ล้านบาท อะไหล่ระบบไฟฟ้าเฮลิคอปเตอร์ เป็นต้น

      6.บริษัท แอโรมารีน  จำกัด  (นางรตี สาครจันทร์  เป็นกรรมการ)    จำนวน 12 ครั้ง วงเงิน  23.2 ล้านบาท อาทิ อะไหล่ เฮลิคอปเตอร์BELL-212ศูนย์ส่งกำลังบำรุงฐานทัพเรือสัตหีบ ชลบุรี  เป็นต้น
      7.บริษัท สยามเอวีเอชั่น  จำกัด  (นายวิธาน มกราภิรมย์ ถือหุ้นใหญ่)   จำนวน 5 ครั้ง วงเงิน  9.6 ล้านบาท อาทิ  อะไหล่ระบบอิเล็กทรอนิคส์  เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบที2  ,อุปกรณ์สื่อสารประจำเครื่องบินตรวจการณ์ชี้เป้า  เป็นต้น
      จากการตรวจสอบพบว่า  บริษัท มาร์ช เอวิเอชั่น  จำกัด  จดทะเบียนวันที่ 31 มีนาคม 2538 ทุน 2 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 19/26 ซอยลาดพร้าว 126 (กรัณฑ์พร) ถนนลาดพร้าวเขตวังทองหลางกรุงเทพฯนางสาวสิรินาทอนันตพงศ์ถือ หุ้น80%   นางสาวเต็มสิริ อนันตพงศ์  นางสาวอริสรา อนันตพงศ์ คนละ 5% นางสาวดรุณี วิศิษฏ์ชัยนนท์  นายธนพจน์ วิเศษสินธุ์ นางรัตนา จิรันดร นายศุภชัย จิรันดรคนละ 2.5 %
      ส่วน บริษัท เมเจอร์ แอร์โร บิสิเนส   จำกัด  จดทะเบียนก่อตั้งวันที่ 4 กันยายน 2545  ทุน 2 ล้านบาท ที่ตั้ง19/290 หมู่ที่ 1 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ นายนพดล ธรรมวัฒนะ  ถือหุ้นใหญ่  47.5%  นายสุพจน์ โชคพิศาลทรัพย์  นายอนุกูล หนูชูแก้ว คนละ 15%   นายไพบูลย์ ทองอุหาร 12.5%
      ขณะที่  บริษัท ศรีวิวัฒน์ แอนด์ พาร์ทเนอร์  จำกัดของนายวิวัฒน์ พัฒโนดม จากการตรวจสอบพบว่า เคยทำธุรกิจคาอาวุธร่วมกับนายเนาวรัตน์  พัฒโนดม ชื่อบริษัท คอมเมอร์เชียลแอสโซซิเอทส์ จำกัดซึ่งถูกศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์เด็ดขาดเมื่อ 29 เมษายน 2553-คดีแดงที่ ล             5376/2553      ) นายเนาวรัตน์มีความใกล้ชิดกับตระกูลศิริวัฒน์โดยนายเนาวรัตน์เคยทำธุรกิจร่วมกับนายวารุจ ศิริวัฒน์ นักการเมืองอุตรดิตถ์  ปัจจุบันสังกัดพรรคใหญ่ในรัฐบาล ชื่อ บริษัท คอร์ปอเรท แอร์คราฟท์ส เซอร์วิส จำกัด
     กลุ่มพัฒโนดมเคยเป็นผู้ สนับสนุนทางการเงินให้นักการเมืองใหญ่คนหนึ่งในยุคที่มีการตรวจสอบโดยคณะ กรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน (คตส.) ยุค รสช.  นักการเมืองคนนั้นกำลังเรืองอำนาจในปัจจุบัน
    นายหน้ากลุ่มไหนจะพัวพันกับการจัดซื้อเรือดำนำของกองทัพเรือหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป
    
    
                                         เอกชนที่เป็นคู่สัญญากับกองทัพเรือในการจัดซื้ออะไหล่เครื่องบินในรอบ 3 ปี

ชื่อ จำนวนครั้ง  วงเงิน ล้าน (บาท)
บริษัท  มาร์ช เอวิเอชั่น  จำกัด   91 276.9
บริษัท เมเจอร์ แอร์โร บิสิเนส  จำกัด 52 151.9
บริษัท ศรีวิวัฒน์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ จำกัด 28   89.4
บริษัท โรยัลสกาย จำกัด   4   30.2
บริษัท เอวีเอชั่น เซอร์วิส  จำกัด   5   39.8
บริษัท แอโรมารีน  จำกัด 12   23.2
บริษัท สยามเอวีเอชั่น  จำกัด   5   6.9 
ทึ่มา:ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนฯ (www.tcijthai.com) รวบรวม



เจาะกองทัพ: 3 บ.บิ๊กค้าอาวุธ"ทัพบก"โผล่"ทัพเรือ"ซิวเรียบปืน-รถยนต์ฮัมวี่ลอตใหญ่

ตรวจสอบการจัดซื้อในกองทัพเรือมูลค่า 1.5 หมื่นล้าน ตามไปดูบริษัทค้าอาวุธรายใหญ่กองทัพบกที่เข้ามาสร้างอาณาจักรในกองทัพเรือ กับคำถามทำไมกองทัพจัดซื้อจากผู้ค้าซ้ำๆกัน?
     งบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้าง15,558 ล้าน บาท ในช่วง 3 ปีของกองทัพเรือในส่วนของการจัดซื้ออะไหล่-ซ่อมบำรุงเฮลิคอปเตอร์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าตกอยู่ในมือผู้ค้ารายใหญ่ 3 ราย คือ บริษัท  มาร์ช เอวิเอชั่น  จำกัด  บริษัท เมเจอร์ แอร์โร บิสิเนส จำกัด  และ บริษัท ศรีวิวัฒน์ แอนด์ พาร์ทเนอร์จำกัด  1 รายคือ บริษัท โรยัลสกาย จำกัด  เป็นผู้ค้าเฮลิคอปเตอร์รายใหญ่ของกองทัพบก แต่ละรายมีเครือข่ายคอนเนกชั่นไม่ธรรมดา
     คราวนี้ลองมากดูประเภทอื่นกันบ้าง
     ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนฯ (www.tcijthai.com)ตรวจสอบพบว่า นอกจากกลุ่มบริษัท โรยัลสกาย จำกัดขาใหญ่กองทัพบกอีก 3 รายที่เข้ามาสร้างอาณาจักรในกองทัพเรือ
     1.กลุ่มชัยเสรีในนามบริษัท ชัยเสรี เม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัดและ บริษัท ชัยเสรี (กรุงเทพ) จำกัด
      2.บริษัท รอยัล ดีเฟนส์ จำกัด
      3.หจก.พัฒนาอุปกรณ์    
      จากการตรวจสอบพบว่า ในรอบ 3 ปี (            2551-2553      ) บริษัท ชัยเสรี เม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัดและ บริษัท ชัยเสรี (กรุงเทพ)จำกัด เป็นผู้จัดหาทั้งสิ้น  11 ครั้ง (สัญญา) วงเงิน 62.4 ล้านบาท  อาทิ อะไหล่รถยนต์ ฮัมวี่ M 104  ,อะไหล่รถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ,อะไหล่รถยนต์บรรทุก ขนาด 1/4 ตัน  ให้หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
      บริษัท รอยัล ดีเฟนส์จำกัด เป็นผู้จัดหาจำนวน 15 ครั้ง  (สัญญา) วงเงิน 108.5 ล้านบาท อาทิ  ปืนพกขนาด 9  ม.ม. พร้อมอุปกรณ์ฯ จำนวน 2,315 กระบอก  ,ปืนพกขนาด 9 ม.ม.พร้อมอุปกรณ์ Model Glock17 จำนวน 40 กระบอก  ,ปืนลูกซอง ขนาด 12 เกจ พร้อมอุปกรณ์ประกอบตราอักษรฯ จำนวน 48 กระบอก  ,,ปืนเล็กยาว 5.56 มม.,ปืนลูกซอง 12 เกจ พร้อมอุปกรณ์ประกอบ 440 กระบอก  ,ปืนกล 7.62 มม. พร้อมอุปกรณ์ 12 กระบอก  ,หมวกป้องกันกระสุน จำนวน 2,000 ใบเป็นต้น
      หจก.พัฒนาอุปกรณ์   เฉพาะหน่วยงานของกองทัพเรือได้รับการจัดซื้อ จำนวน 5 ครั้ง (สัญญา) วงเงิน  41.7 ล้านบาท อาทิ  ปืนเล็กสั้น ขนาด 5.56 มิลลิเมตร รุ่น 416 จำนวน 144 กระบอกเครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 40 มล.ม.รุ่น เอ็ม 203 พร้อมอุปกรณ์ประกอบ จำนวน 18 กระบอก  เครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 40 มิลลิเมตร รุ่นGLM จำนวน 18 กระบอก   ปืนเล็กสั้น ขนาด 5.56 มล.ม. รุ่น SIG516 พร้อมอุปกรณ์ 16 อัน  เป็นต้น
     
        ส่วนรายอื่นได้แก่
        บริษัท อี แอนด์ ซี เน็ทเวิร์ค จำกัด  เป็น ผู้จัดหา อะไหล่รถสะเทินน้ำสะเทินบก หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน,อะไหล่รถยนต์บรรทุกอะไหล่รถเกราะคอมมานโด วี รวม  32 ครั้ง(สัญญา)  วงเงิน  126.5 ล้านบาท
        บริษัท วงศ์พิพัฒน์ เอ็นจิเนียริ่งจำกัด  คู่ ค้ากับหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ชลบุรี  และ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาชายฝั่ง ชลบุรี จัดหาอะไหล่ซ่อมทำรถยนต์สงครามชนิดช่วยรบ  ,ซ่อมเกียร์รถสะเทินน้ำสะเทินบก  รวม  จำนวน  28 สัญญา วงเงิน 52.3 ล้านบาท
       บริษัท เพาเวอร์เทค  จำกัด  ได้รับว่าจ้างซื้อขายอะไหล่เครื่องยนต์จากกรมอู่ทหารเรือ  รวม 29 สัญญา วงเงิน 94.4 ล้านบาท

              ตาราง การจัดซื้อจัดจ้างอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ -รถลำเลียง กองทัพเรือ
ชื่อบริษัท จำนวนครั้ง  (สัญญา)  วงเงิน ล้าน(บาท)
บริษัท อี แอนด์ ซี เน็ทเวิร์ค จำกัด 32 126.5
บริษัท เพาเวอร์เทค  จำกัด 29 94.4
บริษัท วงศ์พิพัฒน์ เอ็นจิเนียริ่งจำกัด  28 52.3
กลุ่มบริษัท ชัยเสรี เม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัด 11 62.4
บริษัท วงศ์พิพัฒน์ เอ็นจิเนียริ่งจำกัด  28 52.3
ที่มา:ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนฯ (www.tcijthai.com)รวบรวม

        บริษัท วิริยะกิจ   (1995) จำกัด  คู่ค้ากับกรมสรรพาวุธทหารเรือ กล้องตรวจการณ์กลางคืน  ,กล้องเล็กกลางวันและกลางคืน ประกอบปืนเล็กยาว M.1622 กล้อง,กล้องเล้ง PANORAMIC M 12A 7H  พร้อมฐานสำหรับปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้ง 105 ม.ม. ชุดศูนย์เล็งด้วยแสงเลเซอร์รวม10 ครั้ง (สัญญา)  วงเงิน  53.3 ล้านบาท
       บริษัท ไฮเท็คดีเฟนซ์ออปติคส์ จำกัด  จัดหหาอะไหล่กล้องส่องกลางคืน  จำนวน 3 ครั้ง (สัญญา)  วงเงิน 16.3 ล้านบาท

       บริษัท ไวเปอร์ (ไทย) จำกัดเป็นคู้ค้ากับ กรมสรรพาวุธทหารเรือ อาทิ เครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่   ซื้อขาย เครื่องฉาย X-RAY วัตถุระเบิดกล้องตรวจการณ์กำลังขยายสูง จำนวน 12 ครั้ง (สัญญา)  วงเงิน 56.4 ล้านบาท
    
         จากการตรวจสอบพบว่าบริษัท วงศ์พิพัฒน์ เอ็นจิเนียริ่งจำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท   นายโกศล มัธยันต์พลและ  นายพิพัฒน์ มัธยันต์พลถือหุ้นใหญ่  ที่ตั้งเลขที่ 9/19 หมู่ที่ 6 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
        ขณะที่บริษัท อี แอนด์ ซี เน็ทเวิร์ค จำกัด  ทุนจดทะเบียนเพียง  400,000  บาท ที่ตั้งเลขที่  450 ซอยอุดมสุข 26 ถนนสุขุมวิท 103 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ  นายพิพัฒน์ มัธยันต์พลและนาย ชำนาญ มัธยันต์พล  ถือหุ้นใหญ่
        เท่ากับ 2 บริษัทมีเจ้าของคนเดียวกัน
      คำถามก็คือทำไมกองทัพเรือจึงจัดซื้อจากผู้ค้าซ้ำๆกัน?

      ตาราง การจัดซื้อปืนระเบิดกองทัพเรือ
ชื่อบริษัท จำนวนครั้ง  (สัญญา)  วงเงิน ล้าน(บาท)
บริษัท รอยัล ดีเฟนส์จำกัด 15 108.5
หจก.พัฒนาอุปกรณ์  5 41.7
บริษัท วิริยะกิจ   (1995) จำกัด 10 53.3
บริษัท ไฮเท็คดีเฟนซ์ออปติคส์ จำกัด 3 56.4
บริษัท ไวเปอร์ (ไทย) จำกัด 12 56.4
ที่มา:ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนฯ (www.tcijthai.com)รวบรวม



เจาะกองทัพ:งบฯจัดซื้อทัพอากาศ 2.7 หมื่นล้าน-โฉมหน้าพ่อค้าอาวุธใหญ่(ตอนที่ 10)

ชำแหละละเอียดงบฯกองทัพอากาศ 2.7 หมื่นล้าน กับการจัดซื้ออาวุธ เสื้อเกราะ รถยนต์กู้ภัย ปืน กล้องตรวจการณ์ เม็ดเงินก้อนโตในกำมือบริษัทเครือข่ายบิ๊ก?
ในช่วง 3 ปี กองทัพอากาศ  3 ปี  มีเม็ดเงินในการจัดซื้อจัดจ้างกับเอกชนทั้งหมด 3,600 สัญญา วงเงิน   27,350,6 ล้านบาท  แบ่งเป็น
ปีงบประมาณ 2551  จำนวน   1,170 สัญญา วงเงิน   10,084.7 ล้านบาท
ปีงบประมาณ 2552 จำนวน  1,203 สัญญา วงเงิน 8,794.7 ล้านบาท
ปีงบประมาณ 2553 จำนวน   1,227 สัญญา วงเงิน 8,471.2 ล้านบาท
รวม วงเงิน 27,350.6 ล้านบาท
ภายใต้เม็ดเงินมหาศาลดังกล่าวปฏิเสธไม่ได้ว่าบริษัทค้าอาวุธที่มีสายสัมพันธ์กับข้าราชการระดับสูงเข้ามาสร้างอาณาจักร อย่างน้อย 2 ราย
หนึ่ง บริษัท กมลรัตน์ คอมเมอร์เชียล จำกัด
สอง บริษัท แอสโซซิเอเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นยิเนียริ่ง จำกัด
ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนฯ (www.tcijthai.com) ตรวจสอบพบว่าบริษัท กมลรัตน์ คอมเมอร์เชียล จำกัดเป็น ผู้จัดหาอาวุธปืน  ปืนพกกึ่งอัตโนมัติขนาด 9  ม.ม.จำนวน 400 กระบอก  วงเงิน  7,150,000 บาท  ,พานท้ายปืนเล็กยาวอัตโนมัติขนาด5.56 ม.ม.เอชเค 33(แบบพับ)1,925,000 บาท , ปืนลูกซอง12เกจ จำนวน100กระบอก1,930,000 บาท , ปืนพกกึ่งอัตโนมัติขนาด 9ม.ม.วงเงิน 3,575,000 บาท  วงเงินรวม  14.5 ล้านบาท
บริษัท แอสโซซิเอเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นยิเนียริ่ง จำกัดเป็นผู้ขายเครื่องหน่วงความเร็วเครื่องบิน บริษัทจากกรมช่างโยธาทหารอากาศมากสุด  จำนวน 9 ครั้ง วงเงิน 225.7 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัท กมลรัตน์ คอมเมอร์เชียล จำกัด มีนักธุรกิจร่วมกับนายทหารชั้นยศพลเอกถือหุ้น  ส่วนบริษัท แอสโซซิเอเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นยิเนียริ่ง จำกัด นายนิรยุทธ วันเพ็ญถือหุ้นใหญ่ 94.9% ร้อยตำรวจโทนวลตา วันเพ็ญ4%  นายนิรยุทธ วันเพ็ญ  ทำธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างร่วมกับ นาวาอากาศเอก พิมล ไพบูลย์  นายยศ นิ่มสมบุญ  นาวาอากาศเอก อนุธวัช บุณยสิงห์  นายนินนาท คัมภีรญาณนนท์  นาวาอากาศเอก อำพล งามวงษ์วาน  นาวาอากาศเอกชูดวง แสงชูโตชื่อบริษัท ทรัพย์ทราย จำกัดมีสำนักงานแถวถนนพระราม 4
นอกจากนี้ บริษัท รอยัลดีเฟนส์ จำกัด ผู้ค้าอาวุธใหญ่ ในกองทัพ  เข้ามาจัดหาอาวุธปืน 4 ครั้ง ได้แก่ ปืนลูกซอง12 เกจ จำนวน40ชุด,ข้อต่อสายกระสุนฯจำนวน50,000EA  ,อะไหล่ซ่อมบำรุง RIFLE AUTO CAL5.56MM.M16   และ อะไหล่ซ่อมบำรุงGUN MACHINEฯ  รวมวงเงิน 8.3 ล้าน
ส่วนการจัดซื้อประเภทอื่นพบว่า
ประเภทเสื้อเกราะ  จัดซื้อจากบริษัท สแตนดาร์ด พร้อมพ์  จำกัด (นายธนกฤต เจนกิตติโชค ถือหุ้นใหญ่) ทั้งหมด 3 ครั้ง 315 ตัว วงเงิน  9.4 ล้านบาท
ประเภทรถยนต์ -อะไหล่  จัดซื้อจาก บริษัท โตโยต้าชัยรัชการ จำกัด  จำนวน 21 ครั้ง 87 คัน  รวม   86.8 ล้าน บาท  อาทิ  รถยนต์ตรวจการณ์วัตถุระเบิด    ,รถยนต์นำขบวนติดสัญญาณวิทยุไซเรน  ,รถยนต์สงครามชนิดช่วยรบขนาด1/2ตัน  ,รถยนต์สงครามชนิดช่วยรบขนาด1/4ตัน   ,รถตรวจการณ์ขนาดเล็ก , รถยนต์ปฏิบัติการพิเศษ MCP เป็นต้น

บริษัท ช.ทวี ดอลล่าเซียน จำกัด(กลุ่มนายสุรเดช  ทวีแสงสกุลไทยนักธุรกิจ จ.ขอนแก่น) จำนวน 3 ครั้ง 72 คัน วงเงิน  76,760,000บาท  ได้แก่ ซื้อรถยนต์สงครามชนิดช่วยรบขนาด3/4 ตัน 2 ครั้งๆ ละ จำนวน 16 คัน  และ รถยนต์สงครามติดแท่นปืนกล แบบ RING MOUNT จำนวน 40 คัน
รถยนต์ปฏิบัติการณ์กู้ภัย บริษัท เอกเสคคิวทิฟเทรดดิ้ง จำกัด  2  คัน  6.1 ล้านบาท และยังซื้อเครื่องตรวจวัดสารพิษชนิดมือถือ  2 ครั้ง 3.9 ล้าน บาท
อะไหล่ซ่อมบำรุงอาวุธรถหุ้มเกราะ  บริษัท เทพยนต์ แอโรโมทีฟ อินดัสตรี้ส์ จำกัด2 ครั้ง  17.3 ล้านบาท
ประเภทเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิดจัดซื้อจาก บริษัท บี.กริม เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด(นาย ฮาราลด์ ลิงค์  และ บี.กริม จอยน์ เว็นเจอร์ โฮลดิ้ง ถือหุ้นใหญ่ )5 ครั้ง 7.6 ล้านบาท
ประเภทกล้องตรวจการณ์และอะไหล่ทั้งหมดซื้อจาก บริษัท ฮอลลีวู้ด อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(นายธีรวุฒิ ตันติวงษากิจนางอรุณี ตันติวงษากิจถือหุ้นใหญ่)  12 ครั้ง วงเงิน 36.6 ล้านบาท  อาทิ กล้อง สองตาในเวลากลางคืนจำนวน 40 กล้อง  ราคา 12 ล้านบาท ,เครื่องยิงน้ำดับเพลิงแรงดันสูงและเครื่องอัดอากาศช่วยหายใจเคลื่อนย้าย ได้   1,140,000 บาท , หลอดภาพขยายแสง(IMAGE INTENSIFIER TUBE)ใช้กับกล้อง SABRE PERISCOPE รถหุ้มเกราะCONDOR  1,333,327 บาท  เป็นต้น
ประเภทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์  จัดซื้อจาก บริษัท โกลบอล เทคโนโลยี แอนด์ เอ็กซ์-อิม จำกัด(นายไพรัตน์ จารุพงศา ถือหุ้นใหญ่)  8 ครั้ง วงเงิน  32.9 ล้านบาท   อาทิ MULTI-FUNCTION TEST SET,เครื่องช่วยฝึกยิงปืนเล็กด้วยเลเซอร์  ,อุปกรณ์รับสัญญาณภาพของรถยนต์ MCP   เป็นต้น
รถจักรยานยนต์ปฏิบัติการทางยุทธวิธีจัดซื้อจาก บริษัท แพล็ททินัม มอเตอร์ เซลส์ จำกัด (เดิมชื่อบริษัท สหไทยอินโนเวชั่น จำกัด- นางสาวนารีลักษณ์ สมเสมอถือหุ้น 49.9% บริษัท คายัค มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด จากจีน  45%)  จำนวน  86 คัน ราคา 4.5 ล้านบาท
อุปกรณ์คุมฝูงชนจากบริษัท ดีเฟนเทค จำกัด (เจ้าของเดียวกับบริษัท ฮอลลีวู้ด อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด) จำนวน 2 รายการ วงเงิน  9.8 ล้านบาท
น่าสังเกตว่า การจัดซื้อจากผู้ค้าแบบซ้ำๆ ต่อเนื่องยาวนาน และการมีสายสัมพันธ์กับคนในกองทัพเป็นสิ่งที่สาธารณชนไม่ เคยได้รับการอธิบาย?  
………………
        บริษัทจากต่างชาติที่เป็นคู่ค้ากับกองทัพอากาศ
ชื่อ รายการจัดซื้อ วงเงินล้าน  (บาท)
บริษัท AERO TECHNOLOGY
สหรัฐอเมริกา
จัดหาอะไหล่และอุปกรณ์เฮลิคอปเตอร์ อะไหล่ซ่อมบำรุงเครื่องวิทยุไมโครเวฟMDR-2205 9.8
บริษัท aero partnersLTD.
สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนเหนือ
อะไหล่ซ่อมPROPELLER P/Nฯเครื่องบินลำเลียง 8
บริษัท  FERNAU AVIONICS LIMITED
สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์
เครื่องช่วยเดินอากาศทาแคนภาคพื้นพร้อมติดตั้ง โดยกรมสื่อสารทหารอากาศ 45.2
บริษัท SAAB AB (PULB)SABB MICROWAVE SYSTEMS  สวีเดน ประเทศสวีเดน  RECEIVER MODULEจำนวน1EAMMI COMPUTER จำนวน2EA  โดยกรมสื่อสารทหารอากาศ  16.1
บริษัท Nera Telecommunication Ltd.,
ประเทศสิงคโปร์
อุปกรณ์ระบบสื่อสารโทรคมนาคม 89.1
บริษัท TADIRAN COMMUNITION LTDรัฐอิสราเอล วิทยุสื่อสารป้องกันฐานบินพร้อมระบบ  23.2
บริษัท Elbit Systems Ltd.รัฐอิสราเอล  อะไหล่ซ่อมบำรุงระบบควบคุมการยิงบ.ขฝ.1 11.2
บริษัท  yieldCO.LTD ประเทศญี่ปุ่น EMERGENCY LOCATOR TRANSMITTER(ELT)   6.7
บริษัท ROHDE&SCHWARZ INTERNATIONAL GmbHสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี พื้นดิน-อากาศจำนวน11ชุด 39.9
ที่มา:ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนฯ (www.tcijthai.com)รวบรวม




เปิดข้อมูลจัดซื้ออาวุธ เครื่องมือในศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) และ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล 1,000 ล้าน 5 เสือ บ.ค้าอาวุธกวาดเพียบ
ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) และศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากลเป็น 2 หน่วยงานของกองบัญชาการกองทัพไทยที่ใช้งบประมาณในการซื้ออาวุธและเครื่องมือต่างๆ 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ในรอบ 3 กองบัญชาการทหารสูงสุดทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับเอกชนทั้งหมด1,496  สัญญา วงเงิน  14,815.6 ล้านบาท   แบ่งเป็น
ปี 2551 จำนวน 525 สัญญา วงเงิน  3,637.7 ล้านบาท
ปีงบฯ 2552 จำนวน  603 สัญญา วงเงิน   8,265.7 ล้านบาท
ปีงบฯ 2553 จำนวน   368 สัญญา วงเงิน   2,912.1 ล้านบาท
จากการตรวจสอบพบว่า  เฉพาะศูนย์รักษาความปลอดภัย ใช้เงินเพื่อจัดซื้ออาวุธ เครื่องไม้เครื่องมือ และรถยนต์ 640 ล้านบาท จำแนกเป็นประเภทดังนี้
เครื่องรับ-ส่งวิทยุจัดซื้อจัดหาจาก บริษัท เซลโฟล จำกัด  รวม  6  ครั้ง  22.2 ล้านบาท
กล้องตรวจการณ์กลางคืน  บริษัท กันโน่ ซีสเต็มส์ อินทรีเกรชั่น จำกัด1.2 ล้าน บาท  (14 ก.พ. 2551)
เครื่องมือตรวจใต้ท้องรถจัดซื้อจาก บริษัท กันโน่ ซีสเต็มส์ อินทีเกรชั่น จำกัด5.9 ล้านบาท (19 ก.พ.2551) 7.5 ล้าน บาท  ( 26 ก.ย.2551)  รวม 13.4 ล้านบาท  ,บริษัท ติ๊งเน็ท คอร์ปเปอร์เรชั่น จำกัด 4.6 ล้าน บาท  (16 ก.พ. 2552)
เครื่องมือสืบสวนหาข่าวจัดซื้อจากเอกชน  3 ราย
 1.  บริษัท ไวเปอร์ (ไทย) จำกัด 3.2 ล้านบาท  (22 ก.พ. 2551)  2. บริษัท กันโน่ ซีสเต็มส์ อินทีเกรชั่น จำกัด 3  ครั้ง ได้แก่  7,500,000 บาท  (25 ก.พ. 2551) ,  13,690,000 บาท  (30 ก.ย. 2551 ) และ 7,980,000 บาท  (18 มี.ค.2553)   รวม 29.1 ล้านบาท และ 3. บริษัท เพลสซิ่ง แวลู จำกัด8 ล้านบาท  ( 22 ก.ย.2551)
เสื้อเกราะกันกระสุน  บริษัท ยี.เอ็ช.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  150 ตัว  5.5 ล้านบาท  (22 ก.พ. 2551)  
ปืน  บริษัท สายทองอามส์ จำกัด ปืนพกออโตเมติก ขนาด 9 มม.  1.7 ล้านบาท  (22 ก.พ. 2551)
กระสุนปืน  บริษัท บุลเล็ท มาสเตอร์ จำกัด 1.8 ล้านบาท (23 ก.ย.2552)
เครื่องมือป้องกันระบบส่งกำลังสัญญาณทางการสื่อสาร  บริษัท สตาบิล จำกัด 2 ครั้ง (28 ก.พ. 2551)  รวม 12.6 ล้านบาท
เครื่องมือเทคนิคตรวจป้องกันการดักฟังทางคลื่นวิทยุ  จัดซื้อ 2 รายการ  1.บริษัท เพลสซิ่ง แวลู จำกัด  2 ครั้ง ได้แก่   4,847,000 บาท (3 มี.ค.2551)  และ   43,980,740 บาท   ( 30 ก.ย.2551) รวม 48 .8 ล้านบาท    และ 2. บริษัท เซลโฟล จำกัด2 2 ครั้ง  4,995,000 บาท  (16 ม.ค. 2552)   และ 5,287,500 บาท  (20 ม.ค. 2552)     รวม 10.2 ล้านบาท
ระบบกล้องตรวจการณ์/ซ่อนพราง พร้อมระบบบันทึกและส่งสัญญาณภาพ  บริษัท กันโน่ ซีสเต็มส์ อินทีเกรชั่น จำกัด  9.9 ล้านบาท ( 27 มิ.ย.2551)
ระบบกล้องตรวจจับป้ายทะเบียนซื้อจากเอกชน 2 ราย1. บริษัท เพลสซิ่ง แวลู จำกัด9.9 ล้านบาท  (30 ก.ค. 2551)   บริษัท ติ้งเน็ท คอร์ปเปอร์เรชั่น จำกัด  5.8 ล้านบาท  ( 16 ก.พ.2552)
รถยนต์ ตรวจการณ์บริษัท กันโน่ ซีสเต็มส์อินทีเกรชั่น จำกัด1.8  ล้านบาท  ( 20 ส.ค.2551)
รถยนต์นั่งเก๋งแบบแวนยี่ห้อ LEXUS รุ่น RX350  1 คัน   บริษัท เล็กซ์ซัส กรุงเทพ จำกัด 5.4 ล้านบาท  (19 ส.ค. 2552X
รถยนต์ปฏิบัติการหุ้มเกราะกันกระสุนแบบแวน ชนิด2 ตอน 5 ประตู ยี่ห้อ LAND ROVER รุ่น Range Roverจำนวน 20 คัน บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด 122.8 ล้านบาท  (27 ส.ค. 2552)
รถยนต์นั่งเก๋งแบบแวน ชนิด 2 ตอน 5ประตู เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อ เมอร์เซเดสเบนซ์ รุ่น E350ESTATE จำนวน 3 คัน  บริษัท ดีเอเอส เซอร์วิส จำกัด 12.5 ล้านบาท  (30 ก.ย. 2552)
รถยนต์นั่งตรวจการณ์ขนาดใหญ่ แบบขับเคลื่อน 4ล้อชนิด 2 ตอน 5 ประตู เครื่องยนต์เบนซิน ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น LAND CRUISER 4 WD (V8) จำนวน 3 คัน  บริษัท ดีเอเอส เซอร์วิส จำกัด 10.5 ล้านบาท  (  30 ก.ย.2552)
รถยนต์นั่งขนาดใหญ่สำหรับติดตั้งวิทยุติดต่อสื่อสารเพื่อรักษาความปลอดภัย(แบบ 4 ประตู) บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์(ประเทศไทย) จำกัด21.5 ล้านบาท  ( 24 พ.ค. 2553)
รถยนต์นั่งขนาดใหญ่แบบตรวจการณ์ 5 ประตู  บริษัท โตโยต้า ลิบรา จำกัด 2.3 ล้านบาท  ( 29 มิ.ย.2553)
รถยนต์นั่งขนาดใหญ่ ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น CAMRYHYBRID(2.4HV)ปริมาตรกระบอกสูบ 2,362 ซีซีบริษัท โตโยต้า เค.มอเตอร์ส  3.5 ล้านบาท  ( 6 ก.ย.2553)
ระบบติดตามเป้าหมายระบุตำแหน่งด้วยดาวเทียม  บริษัท กันโน่ ซีสเต็มส์ อินทีเกรชั่น จำกัด 3 ครั้ง ได้แก่ 6,600,000 บาท  ( 22 ก.ย.2551)  5,500,000 บาท ( 30 ก.ย. 2551)และ  7,980,000 บาท (4 ก.พ. 2552)  รวม 20 ล้านบาท
ระบบขยายสัญญาณติดต่อสื่อสารแบบเคลื่อนที่ จัดซื้อจาก 1. บริษัท กันโน่ ซีสเต็มส์ อินทีเกรชั่น จำกัด  7.7 ล้าน บาท  (26 ก.ย.2551)   และ 2. บริษัท อิทธิพร อิมปอร์ต จำกัด  249.8 ล้านบาท (26 ก.ย.2551)
เครื่องตรวจจับและค้นหาวัตถุระเบิด บริษัท แจ๊คสัน อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด 2.6 ล้านบาท  ( 13 ม.ค. 2552)   บริษัท เพลสซิ่ง แวลู จำกัด 2 ครั้ง 5,900,000 บาท  ( 6 มี.ค.2552)   1,510,000 บาท  ( 29 ก.ย.2552) รวม 7.4  ล้านบาท
ชุด JAMMER HP(เครื่องตัดสัญญาณ โทรศัพท์มือถือ)ยี่ห้อ Netline รุ่น C-Guard TXP ผลิตภัณฑ์ของประเทศอิสราเอล บริษัท ไฮเท็ครีสอร์ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด1.8 ล้านบาท  (  17 ก.ย. 2552) และ   บริษัท กันโน่ ซีสเต็มส์ อินทีเกรชั่น จำกัด  1.1 ล้าน บาท  ( 23 ก.ย. 2552)
ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากลในช่วง 3 ปี ใช้เงินซื้ออาวุธ อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ในการปฏิบัติภารกิจ จำนวน 301 ล้านบาท จากเอกชน 3 ราย
 อาวุธปืน จัดซื้อจาก เอกชน  3 ราย
     1.บริษัท ยี.เอ็ช.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  ได้แก่ ปืนพก 19 ก.ย. 2551   ปืนยาว 26 ก.ย. 2551  ,ปืนพลซุ่มยิง  ( 21 พ.ค.2552)   ,ปืนกลมือ ขนาด 9  ม.ม.  (25 มี.ค. 2553)  และปืนยิงลูกระเบิด ขนาด 40 ลบ.ม. ยี่ห้อ Milkorรุ่น MK 1L  (26  ส.ค.2553)  รวมทั้งสิ้น 23.6 ล้านบาท  
     2. บริษัท ฟิกซ์เทค จำกัด   ปืนกลมือ ขนาด 9  ม.ม.พร้อมอุปกรณ์7.2  ล้านบาท ( 4 พ.ค. 2552)
     3.บริษัท สายทองอามส์ จำกัด ปืนพกและอุปกรณ์  5.5 ล้านบาท (19 พ.ค.2552)
กระสุนปืนซื้อจาก  บริษัท สายทองอาร์ม จำกัด5 ครั้ง 14.6. ล้านบาท ( 24 เม.ย.2552 จำนวน 2 ครั้ง,7 ก.ค.2553 จำนวน 3 ครั้ง  )  บริษัท ยี.เอ็ช.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด   5.1 ล้านบาท ( 21 พ.ค.2552)  ,บริษัท รอยัล ดีเฟนส์ จำกัด  กระสุนขนาด 5.56  ม.ม. ชนิดเจาะเกราะจำนวน 200,000 นัด 3 ล้านบาท ( 17 ก.ย. 2553)
กล้องตรวจการณ์  หจก.สยามโพลีเทค  ราคา 7.9 ล้านบาท (23 ก.ย.2551)   ,หจก.ควอลิตี้ เมทริคซ์
7,560,000 บาท  (26 ก.ย.2551) ,  บริษัท ซีคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  3ครั้ง 19.7 ล้านบาท  (11 มิ.ย.2552 จำนวน 2 ครั้ง , 30 ก.ค. 2552 จำนวน 1 ครั้ง  )   ,  บริษัท วิริยะกิจ (1995) จำกัด 7.7 ล้านบาท (13 ก.ค.2552)  , บริษัท ดิจิตอล รีเสิร์ช แอนด์ คอนซัลทิ่ง จำกัด   7.6 ล้านบาท  (7 ก.ย.2552)
เครื่องมือเก็บกู้วัตถุระเบิด   บริษัท ยี.เอ็ช.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  2.6  ล้าน บาท  (26 ก.ย. 2551) ,
บริษัท เทพยนต์ แอโรโมทีฟ อินดัสตรีส์ จำกัด    5.8  ล้านบาท (30 เม.ย.2552)   ,  บริษัท ยูนิเวอร์แซล โมบาย เทเลคอม จำกัด  1 ล้านบาท   ( 23 ก.ค.2552)  ,  บริษัท คราวน์ อินดัสทรีส์ จำกัด  5.4 ล้านบาท   (6 ส.ค.2552)
โล่ป้องกันกระสุนบริษัท คราวน์ อินดัสทรีส์ จำกัด  3.9 ล้านบาท  (26 ก.ย. 2551)
อุปกรณ์โรยตัวทางยุทธวิธี  หจก.สยามโพลีเทค  5.9 ล้านบาท  26 ก.ย. 2551  , บริษัท ฟูลเมทอลเทคโนโลยี จำกัด  7.2 ล้านบาท  (9 เม.ย.2552)    ,บริษัท รอยัล อาร์มดรี่ จำกัด540,000 บาท  (20 เม.ย.2552)
เสื้อเกราะ  บริษัท ฮอลลีวู้ดอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 5.7 ล้านบาท  (26 ก.ย. 2551) ,บริษัท ช.ไพศาล จำกัด   9 ล้านบาท  (14 พ.ค.2552)
ระเบิดขว้างแสง เสียงซื้อจาก บริษัท ยี.เอ็ช.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด   9 ล้านบาท  (30 เม.ย.2552,12 ก.ค2553)
เครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดบริษัท ยี.เอ็ช.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  2.6 ล้านบาท  ( 13 ก.ค. 2552)
อุปกรณ์สอดแนมบริษัท ซีคอม อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด 7.8 ล้านบาท   (11 มิ.ย.2552)
 เครื่องมือสำหรับปฏิบัติการต่อต้านอาวุธเคมี- วชีวะ  บริษัท ซันมูนเรย์ จำกัด   5.3 ล้านบาท  ( 13 ก.ค.2552)
  เครื่องตัดสัญญาณวิทยุและโทรศัพท์พร้อมอุปกรณ์    บริษัท ดิจิตอล รีเสิร์ช แอนด์ คอนซัลทิ่ง จำกัด  7.9 ล้านบาท ( 14 พ.ค.2552)
  เครื่องมือสื่อสารและอุปกรณ์บริษัท ยูซีไอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด  3.6 ล้านบาท   (  19 ก.ย. 2551) ,บริษัท ยูนิเวอร์แซล โมบาย เทเลคอม จำกัด   5.2 ล้านบาท ( 26 พ.ค. 2552  ,บริษัท 299 จำกัด  2.4 ล้านบาท ( 26  พ.ค.2552)   ,บริษัท อร่ามบุญ (ประเทศไทย) จำกัด  6.9 ล้านบาท   ( 10 ก.ย.2553 )

  น่าสังเกตว่า ผู้ค้าอาวุธรายใหญ่ของกองทัพบก ยังได้รับการจัดซื้อจาก 2 หน่วยงานในกองบัญชาการกองทัพไทยอยู่เหมือนเดิม 
    …………

                       บริษัทค้าอาวุธที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานในกองบัญชาการกองทัพไทย
                                                 ( 1 ต.ค.2550-30 ก.ย.2553)

ประเภท
ชื่อบริษัท
มูลค่า   (บาท)
ปืน
บริษัท สายทองอามส์ จำกัด
บริษัท ยี.เอ็ช.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
บริษัท ฟิกซ์เทค จำกัด 
7.2       ล้าน
23.6     ล้าน
 7.2    ล้าน
กระสุนปืน
บริษัท บุลเล็ท มาสเตอร์ จำกัด
บริษัท สายทองอาร์ม จำกัด
บริษัท ยี.เอ็ช.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 
บริษัท รอยัล ดีเฟนส์ จำกัด
หจก.ควอลิตี้ เมทริคซ์
บริษัท ซีคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
บริษัท วิริยะกิจ (1995) จำกัด
บริษัท ดิจิตอล รีเสิร์ช แอนด์ คอนซัลทิ่ง จำกัด 
1.8      ล้าน
14.6    ล้าน
5.1     ล้าน
3.0     ล้าน
7.5     ล้าน
19.7   ล้าน
7.7    ล้าน
7.6    ล้าน
เสื้อเกราะกันกระสุน
บริษัท ยี.เอ็ช.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
บริษัท ฮอลลีวู้ดอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
บริษัท ช.ไพศาล จำกัด 
5.5    ล้าน
5.7    ล้าน
9.0    ล้าน
กล้องตรวจการณ์กลางคืน  
บริษัท กันโน่ ซีสเต็มส์ อินทรีเกรชั่น จำกัด
หจก.สยามโพลีเทค
1.2     ล้าน
7.9     ล้าน
ที่มา:ศูนย์ข้อมูล & ข่าวสืบสวนฯ รวบรวม  








จบ ..............