วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สื่อนอกแฉ'นโยบายพท.' รับจำนำข้าว-ทำราคาพุ่ง 'ทั่วเอเชีย'ต้องรับกรรม!! เงินเฟ้อจะกลับมารุนแรง


"บลูม เบิร์ก" แฉนโยบายรับจำนำข้าวของ "พท." จะทำให้ "เอเชีย" ต้องรับกรรม เพราะไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่สุดในโลก ส่งผลทำให้ราคาข้าวทั่วภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลทำให้ "ภาวะเงินเฟ้อ" จะกลับมารุนแรงอีกครั้ง


สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ภูมิภาคเอเชียทั้งหมดอาจต้องรับกรรม จากนโยบายจำนำข้าวในราคาสูงของรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี เพราะไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก นโยบายดังกล่าวจะทำให้ราคาข้าวทั่วภูมิภาคซึ่งบริโภคข้าวคิดเป็น 87% ของทั้งโลก เพิ่มสูงขึ้น

นายฉั่ว ฮัก บิน นักเศรษฐศาสตร์ของเมอร์ริล ลินช์ ธนาคารสัญชาติอเมริกาในสิงคโปร์ กล่าวว่า ราคาข้าวแพงจะหมายถึงแรงกดดันเงินเฟ้อในเอเชียสูงขึ้น ในช่วงเวลาที่อัตราเงินเฟ้อขึ้นไปสูงสุดของเป้าหมายที่ธนาคารกลางของแต่ละ ชาติตั้งเป้า หรือคาดการณ์ไว้ เมื่อสถานภาพทางเศรษฐกิจโลกเริ่มกลับมามีเสถียรภาพ ภาวะเงินเฟ้อจะกลับมารุนแรงอีกครั้ง

บลูมเบิร์ก ยังระบุว่า นโยบายเร่งด่วนหลายเรื่องที่จะกระตุ้นการบริโภคของรัฐบาลไทย ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะสร้างความสับสนให้กับนโยบายการเงินทั่วทั้งเอเชีย จากการที่ราคาอาหารที่สูงขึ้นเพิ่มแรงกดดันให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้ง นี้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางเข้ากระทรวงพาณิชย์เป็นวันแรกว่า คาดว่ารัฐบาลจะเริ่มรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2554/55 ในเดือนพ.ย.นี้ ซึ่งต้องหารือพรรคร่วมรัฐบาลถึงเงื่อนไขและวิธีการรับจำนำ โดยจะรับจำนำข้าวเปลือกเจ้าตันละ 15,000 บาท และข้าวเปลือกหอมมะลิ 20,000 บาท และให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) รับซื้อข้าวจากเกษตรกรเพื่อส่งออกแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ด้วย สต๊อกข้าว 2.1 ล้านตันก็จะใช้วิธีการทยอยระบาย บางส่วนก็อาจนำมาทำข้าวถุง
"การรับจำนำเป็นการดึงราคาข้าวให้สูงขึ้น แต่อาจไม่มีการจำนำทั้งหมด เอกชนคงเข้ามาซื้อแข่ง ซึ่งที่ผ่านมา ราคาข้าวไม่ได้ขยับขึ้นเลย ก็เพราะรอการชดเชยจากรัฐบาล ไม่มีการแข่งขัน ที่ได้ประโยชน์คือประเทศนำเข้าที่ซื้อขายได้ถูก และการส่งออกที่ได้ข้าวราคาต่ำ ผมยังเชื่อว่าผู้ส่งออกไทยยังมีสามารถแข่งขันได้ ซึ่งก็จะให้ความช่วยเหลือด้านอื่นๆ ที่จะทำให้ต้นทุนต่ำลง"นายกิตติรัตน์ระบุ

แหล่งข่าวในกระทรวงพาณิชย์ คาดการณ์ว่า จะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ครั้งแรกในเดือนก.ย.นี้ เพื่อกำหนดเป้าหมาย ราคา และเงื่อนไข สำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2554/55 เบื้องต้นกำหนดรับจำนำข้าวปริมาณ 8 ล้านตัน จากผลผลิตออกสู่ตลาด 22 ล้านตัน ใช้เงินประมาณ 1.2 แสนล้านบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น