วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ศาลรธน.ยกคำร้องการแก้ไขรธน.มาตรา 291 ไม่ถือเป็นการล้มล้างการปกครอง
เมื่อเวลา 14.50 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญขึ้นบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยคดีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยนายบุญส่ง กุลบุปผา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เริ่มอ่านคำวินิจฉัยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคด้แก้รัฐธรรมนูญ ในประเด็นแรก คือ ศาลมีอำนาจรับคำร้องโดยตรงหรือไม่ โดยคำวินิจฉัยระยุว่า ศาลมีอำนาจรับคำร้องโดยตรงตามมาตรา 68โดยไม่ผ่านอัยการสูงสุดได้ เพราะอำนาจวินิจฉัยการกระทำผิด/พิทักษ์รัฐธรรมนูญเป็นของศาลรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ มีอำนาจวินิจฉัยคำร้อง เพื่อสั่งการมิให้กระทำการล้มล้างรัฐธรรมนูญ เพราะหากปล่อยก็พ้นวิสัยแก้ไขได
"กรณีอัยการสูงสุดรับแล้วแต่ยังไมมีคำสั่งแต่หากปล่อยให้ลงมติวาระ3ล่วงไปแล้ว แต่หากต่อมาอัยการสูงสุดส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และเห็นว่ากระบวนการนั้นไม่ชอบให้ยกเลิก ก็ไม่สามารถบังคับได้ หรือไม่อาจย้อนคืนแก้ไขผลที่เกิดขึ้นในการกระทำดังกล่าวได้ ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีอำนาจรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ 68 วรรรค 2
สำหรับประเด็น การแก้ไขรธน.ทั้งฉบับทำได้หรือไม่ ศาลเห็นว่า รธน. 50 ได้ผ่านการลงประชามติจากประชาชน ควรให้ประชาชนลงมติก่อนจะแก้หรือแก้รายมาตรา ไม่ใช้การแก้ทั้งฉบับ
ต่อมานายนุรักษ์ มาประณีต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยในประเด็นปัญหาในมาตรา 68 ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยไม่เป็นไปตามวิถีทางที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่
"ข้ออ้างของผู้ร้องไม่เข้าข้อเท็จจริงว่า ผู้ถูกร้องจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยผู้ถกร้องแสดงเจตคติตั้งมั่นจะดำรงคำร้องตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ข้อเท็จจริงยังไมพ่อวินิจฉัยได้ว่า การกระทำผู้ร้องทั้งหมดเป็นการล้มล้างการปกครองประชาธิปไตย ข้ออ้างทั้งหมดจึงฟังไม่ขึ้น ทั้งหมดเป็นเพียงการคาดกาณ์ และยังห่างไกลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามอ้างข้อเท็จจริง จึงยังไม่พอฟังได้ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นการกระทำของผู้ถูกร้องฟังไม่ได้ว่ามีเจตนาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษตัริย์เป็นประมุข ศาลให้ยกคำร้องส่วนนี้ และเมื่อไม่มีประเด็นวินิจฉัยส่วนนี้ต่อไป จึงให้ยกคำร้องทั้งหมด"นายนุรักษ์ อ่านคำวินิจฉัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น