พท.พบ'แม้ว'ชี้ไม่เอาแก้ม.112
พท. บินพบ 'แม้ว' สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เผย 'นายใหญ่' ไม่เห็นด้วย แก้ ม.112 หนุนตั้งสสร.แก้รธน. ระบุ ตั้ง 20-30 ส.ส. อภิปรายหนุนพรก.กู้เงิน 4 ฉบับ ด้าน 'ปู' เล็งโหนบรรทัดฐานศาลรธน. เคยตีความพรก.4แสนล. สมัย 'มาร์ค' ไม่ขัดรธน.
นายอนันต์ ศรีพันธุ์ ส.ส.อุดรธานี
พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาและเพื่อน
ส.ส.เพื่อไทย ประมาณ 12 คน ซึ่งได้รับรางวัลส.ส.ดีเด่นของพรรคเพื่อไทย
ได้เดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ดูไบ และได้ร่วมรับประทานอาหาร รวมทั้งพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง
ทั้งนี้ เนื้อหาในการพูดคุยกัน ส่วนใหญ่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะพูดถึงเรื่องของนโยบายที่อยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการให้แล้วสำเร็จ อาทิ การพักชำระหนี้ให้เกษตรกร และโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร
"พ.ต.ท.ทักษิณ มี ความเป็นห่วงในเรื่องของตัวบุคคลที่ทำหน้าที่บริหาร จึงได้กำชับให้ส.ส.เน้น การลงพื้นที่ เพื่อพบปะกับประชาชน รวมทั้งให้ความช่วยเหลือ และให้คำแนะนำเรื่องต่าง ๆ ให้มากขึ้น อย่าทอดทิ้งประชาชน เพราะประชาชนเลือกเรามา ดังนั้น เราต้องรับผิดชอบต่อประชาชน"
หนุน ใช้ สสร. แก้ รธน.
สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ เห็น ว่า จะต้องดำเนินการตามแนวทางที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไว้คือ ให้มีการตั้งสสร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จังหวัดละ 1 คนรวม 77 คน จากนั้น จึงให้ สสร.ทั้ง 77 คน คัดเลือกผู้เชี่ยวชาญด้านสาขาต่าง ๆ อาทิ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ สังคม การเมือง และเศรษฐกิจมาเป็นสสร.อีก 22 คนจนครบ 99 คน เพื่อให้มาทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ
'แม้ว' ชิ่ง ไม่เอาแก้ ม.112 อ้าง หวังดี-เจตนาร้ายเยอะ
ส่วนประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า ท่านเองไม่เห็นด้วย เพราะที่ผ่านมา คนไทยก็อยู่กันได้โดยที่ไม่มีปัญหาอะไร แต่อยู่ดี ๆ กลับจะมีคนเอาปัญหามาให้ ท่านจึงไม่เห็นด้วย
"ท่านแสดงความเป็นห่วงในเรื่องนี้มาก เพราะวันนี้มีคนที่หวังดี แต่เจตนาร้ายกับเราอยู่เยอะ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องตั้งหลักให้ดี"
ด้าน นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลังเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อ วันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า มีส.ส.ที่ได้รับรางวัลจากพรรคไปด้วย รวมทั้งหมด 12 คน และได้รับประทานอาหารร่วมกันนานพอสมควร โดยท่านอยากเห็นประเทศเดินหน้า ประชาชนมีความสุข เกิดความปรองดอง อยากเห็นคนไทยยึดหลักการ อย่าทะเลาะกันในเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งหรือทะเลาะกันในเรื่องเล็กๆ
นอกจากนี้ ยังฝากบอกส.ส.ในพรรค ให้ยึดหลักประชาธิปไตย ยึดผลประโยชน์ของประชาชน เพื่อให้เศรษฐกิจดีขึ้น
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ท่านต้องการให้ สสร.มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เข้าไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ อยากเห็นประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น
ตั้ง 20-30 ส.ส. อภิปรายหนุนพรก.กู้เงิน 4 ฉบับของรัฐบาล
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยได้มีการหารือถึงกรณีที่สภาฯ จะมีการพิจารณาพรก.เงินกู้ และแก้ไขปัญหาหนี้ 4 ฉบับของรัฐบาล โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง และรองนายกรัฐมนตรี ได้ส่งทีมงานจากกระทรวงการคลังและสภาพัฒน์ฯ มาชี้แจงเพื่อให้ข้อมูลแก่ส.ส.ในการนำไปอภิปรายชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ ในวันที่ 1 ก.พ.นี้
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ได้เตรียมทีมส.ส.ประมาณ20-30 ไว้ เพื่อเป็นทีมอภิปราย โดยมีนายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) เป็นผู้ดูแลควบคุมภาพรวมของการอภิปราย
"ปู" เล็งโหนบรรทัดฐานศาลรธน.เคยตีความพรก.4แสนล.สมัยมาร์คไม่ขัดรธน.
แหล่งข่าว จากที่ประชุมครม. เปิดเผยว่า ในประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความพรก.กู้เงิน 2 ฉบับ ที่ยื่นผ่านประธานสภาฯนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเห็นในที่ประชุมด้วย และเห็นว่า การประชุมสภาไม่ใช่แค่ชี้แจงพรก. 2 ฉบับ ที่ฝ่ายค้านไม่ได้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ แต่ควรชี้แจง พรก.ทั้ง 4 ฉบับเนื่องจากมีความเชื่อมโยงกัน
“นายกฯได้สอบถาม ครม.ถึงกระบวนการที่ฝ่ายค้าน ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ไปถึงไหนแล้ว เพราะหากมีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ก็ไม่สามารถอภิปรายพรก. 2 ฉบับ ที่ยื่นไปได้ ซึ่งมีการแจ้งให้นายกฯเข้าใจว่า เรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นเรื่องยังอยู่ที่ประธานสภา ยังไม่ไปถึงมือศาลรัฐธรรมนูญ” แหล่งข่าว ระบุ
นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีการหารือกันกว้างขวาง โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง กล่าวมั่นใจว่า ฝ่ายค้านยื่นศาลรัฐธรรมนูญ มีแค่ประเด็นเดียวคือ จำเป็นเร่งด่วนหรือไม่ หากเป็นเช่นนี้ เขามั่นใจว่า ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าว มีเสียงสนับสนุนจากครม. แสดงความมั่นใจว่า พรก.ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาแน่นอน จึงไม่จำเป็นที่ครม.ต้องยกมือโหวต
ขณะที่นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬาจากพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ฝ่ายค้าน โดยนายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หาก พรก. 2 ฉบับขัดต่อรัฐธรรมนูญ นายกิตติรัตน์ ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เขาเห็นว่า ไม่ต้องลาออก เพราะเป็นเรื่องของการขัดหรือไม่ขัดรัฐธรรมนูญเท่านั้น
ส่วนนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว. ต่างประเทศ ซึ่งเป็นอดีตประธานกรรมาธิการการคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎรกล่าวเสริมว่า สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ ออกพรก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาท ตอนนั้น พรรคเพื่อไทยโดยนายประเกียรติ นาสิมมา ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความเช่นกัน
“อภิปรายเช้า ยื่นบ่าย ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจฝ่ายบริหารทำได้ ซึ่งถือว่า เป็นบรรทัดฐานที่วางไว้แล้ว ดังนั้น ในกรณี พรก. 2 ฉบับนี้ คำวินิจฉัยคงจะออกมาเป็นไปในบรรทัดฐานเดียวกัน ซึ่งจะไม่ทำให้การบริหารของรัฐบาลหยุดชะงักลง"
อย่าง ไรก็ตาม ในที่ประชุมก็ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ในขณะนั้น ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นนายชัช ชลวร แต่ขณะนี้ เป็นนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์
คมชัดลึก
ทั้งนี้ เนื้อหาในการพูดคุยกัน ส่วนใหญ่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะพูดถึงเรื่องของนโยบายที่อยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการให้แล้วสำเร็จ อาทิ การพักชำระหนี้ให้เกษตรกร และโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร
"พ.ต.ท.ทักษิณ มี ความเป็นห่วงในเรื่องของตัวบุคคลที่ทำหน้าที่บริหาร จึงได้กำชับให้ส.ส.เน้น การลงพื้นที่ เพื่อพบปะกับประชาชน รวมทั้งให้ความช่วยเหลือ และให้คำแนะนำเรื่องต่าง ๆ ให้มากขึ้น อย่าทอดทิ้งประชาชน เพราะประชาชนเลือกเรามา ดังนั้น เราต้องรับผิดชอบต่อประชาชน"
หนุน ใช้ สสร. แก้ รธน.
สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ เห็น ว่า จะต้องดำเนินการตามแนวทางที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไว้คือ ให้มีการตั้งสสร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จังหวัดละ 1 คนรวม 77 คน จากนั้น จึงให้ สสร.ทั้ง 77 คน คัดเลือกผู้เชี่ยวชาญด้านสาขาต่าง ๆ อาทิ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ สังคม การเมือง และเศรษฐกิจมาเป็นสสร.อีก 22 คนจนครบ 99 คน เพื่อให้มาทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ
'แม้ว' ชิ่ง ไม่เอาแก้ ม.112 อ้าง หวังดี-เจตนาร้ายเยอะ
ส่วนประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า ท่านเองไม่เห็นด้วย เพราะที่ผ่านมา คนไทยก็อยู่กันได้โดยที่ไม่มีปัญหาอะไร แต่อยู่ดี ๆ กลับจะมีคนเอาปัญหามาให้ ท่านจึงไม่เห็นด้วย
"ท่านแสดงความเป็นห่วงในเรื่องนี้มาก เพราะวันนี้มีคนที่หวังดี แต่เจตนาร้ายกับเราอยู่เยอะ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องตั้งหลักให้ดี"
ด้าน นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลังเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อ วันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า มีส.ส.ที่ได้รับรางวัลจากพรรคไปด้วย รวมทั้งหมด 12 คน และได้รับประทานอาหารร่วมกันนานพอสมควร โดยท่านอยากเห็นประเทศเดินหน้า ประชาชนมีความสุข เกิดความปรองดอง อยากเห็นคนไทยยึดหลักการ อย่าทะเลาะกันในเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งหรือทะเลาะกันในเรื่องเล็กๆ
นอกจากนี้ ยังฝากบอกส.ส.ในพรรค ให้ยึดหลักประชาธิปไตย ยึดผลประโยชน์ของประชาชน เพื่อให้เศรษฐกิจดีขึ้น
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ท่านต้องการให้ สสร.มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เข้าไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ อยากเห็นประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น
ตั้ง 20-30 ส.ส. อภิปรายหนุนพรก.กู้เงิน 4 ฉบับของรัฐบาล
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยได้มีการหารือถึงกรณีที่สภาฯ จะมีการพิจารณาพรก.เงินกู้ และแก้ไขปัญหาหนี้ 4 ฉบับของรัฐบาล โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง และรองนายกรัฐมนตรี ได้ส่งทีมงานจากกระทรวงการคลังและสภาพัฒน์ฯ มาชี้แจงเพื่อให้ข้อมูลแก่ส.ส.ในการนำไปอภิปรายชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ ในวันที่ 1 ก.พ.นี้
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ได้เตรียมทีมส.ส.ประมาณ20-30 ไว้ เพื่อเป็นทีมอภิปราย โดยมีนายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) เป็นผู้ดูแลควบคุมภาพรวมของการอภิปราย
"ปู" เล็งโหนบรรทัดฐานศาลรธน.เคยตีความพรก.4แสนล.สมัยมาร์คไม่ขัดรธน.
แหล่งข่าว จากที่ประชุมครม. เปิดเผยว่า ในประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความพรก.กู้เงิน 2 ฉบับ ที่ยื่นผ่านประธานสภาฯนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเห็นในที่ประชุมด้วย และเห็นว่า การประชุมสภาไม่ใช่แค่ชี้แจงพรก. 2 ฉบับ ที่ฝ่ายค้านไม่ได้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ แต่ควรชี้แจง พรก.ทั้ง 4 ฉบับเนื่องจากมีความเชื่อมโยงกัน
“นายกฯได้สอบถาม ครม.ถึงกระบวนการที่ฝ่ายค้าน ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ไปถึงไหนแล้ว เพราะหากมีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ก็ไม่สามารถอภิปรายพรก. 2 ฉบับ ที่ยื่นไปได้ ซึ่งมีการแจ้งให้นายกฯเข้าใจว่า เรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นเรื่องยังอยู่ที่ประธานสภา ยังไม่ไปถึงมือศาลรัฐธรรมนูญ” แหล่งข่าว ระบุ
นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีการหารือกันกว้างขวาง โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง กล่าวมั่นใจว่า ฝ่ายค้านยื่นศาลรัฐธรรมนูญ มีแค่ประเด็นเดียวคือ จำเป็นเร่งด่วนหรือไม่ หากเป็นเช่นนี้ เขามั่นใจว่า ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าว มีเสียงสนับสนุนจากครม. แสดงความมั่นใจว่า พรก.ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาแน่นอน จึงไม่จำเป็นที่ครม.ต้องยกมือโหวต
ขณะที่นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬาจากพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ฝ่ายค้าน โดยนายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หาก พรก. 2 ฉบับขัดต่อรัฐธรรมนูญ นายกิตติรัตน์ ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เขาเห็นว่า ไม่ต้องลาออก เพราะเป็นเรื่องของการขัดหรือไม่ขัดรัฐธรรมนูญเท่านั้น
ส่วนนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว. ต่างประเทศ ซึ่งเป็นอดีตประธานกรรมาธิการการคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎรกล่าวเสริมว่า สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ ออกพรก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาท ตอนนั้น พรรคเพื่อไทยโดยนายประเกียรติ นาสิมมา ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความเช่นกัน
“อภิปรายเช้า ยื่นบ่าย ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจฝ่ายบริหารทำได้ ซึ่งถือว่า เป็นบรรทัดฐานที่วางไว้แล้ว ดังนั้น ในกรณี พรก. 2 ฉบับนี้ คำวินิจฉัยคงจะออกมาเป็นไปในบรรทัดฐานเดียวกัน ซึ่งจะไม่ทำให้การบริหารของรัฐบาลหยุดชะงักลง"
อย่าง ไรก็ตาม ในที่ประชุมก็ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ในขณะนั้น ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นนายชัช ชลวร แต่ขณะนี้ เป็นนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์
คมชัดลึก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น