วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2554

น้ำลายของทักษิณ มีค่าน้อยกว่าส้วมกระดาษ ดีแต่โม้ - ดีแต่โม้ - ดีแต่โม้ (สารส้ม)

( สารส้ม )

วันนี้ ขออนุญาตไม่พูดอะไรมาก...

เพราะยอมรับว่าพูดไม่ออกบอกไม่ถูก กับท่าทีล่าสุดของ "ทักษิณ ชินวัตร" ผู้ร้ายหลบหนีอาญาแผ่นดิน ผู้ถูกศาลฎีกาฯ พิพากษายึดทรัพย์อันได้มาโดยมิชอบตกเป็นของแผ่นดิน มูลค่ากว่า 46,000 ล้านบาท เนื่องจากได้อาศัยอำนาจรัฐเอื้อประโยชน์แก่ตนเองโดยมิชอบ

บ้านเมืองกำลังวิกฤติ น้ำท่วมครึ่งค่อนประเทศ คนตายมากมาย (มากกว่าประเทศเวียดนามเสียอีก)

ขณะนี้ คนไทยทุกภาคส่วน ชุกชั้นชน กำลังพยายามช่วยเหลือกันและกันอย่างเต็มที่

มีเงินช่วยเงิน มีแรงช่วยแรง มีศักยภาพด้านการสื่อสารผ่านโลกออนไลน์ก็ช่วยกันเต็มที่

สมเด็จพระเทพฯ ทรงพระกรุณาฯ เสด็จลงพื้นที่น้ำท่วม เป็นขวัญกำลังใจและพระราชทานถุงยังชีพแก่พสกนิกรชาวไทยผู้เดือดร้อน ยังกำลังใจและความปลาบปลื้มไปสู่คนไทยผู้ได้รับความเดือดร้อนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และเป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยอีกจำนวนมากมีความอุตสาหะ พยายามที่จะช่วยเหลือพี่น้องร่วมชาติมากขึ้นไปอีก

ผู้นำเหล่าทัพทุกหมู่เหล่า ระดมสรรพกำลังเต็มที่ ทัพบก ทัพเรือ อากาศ ไม่มีใครอยู่นิ่ง

ผู้นำฝ่ายค้านก็เดินสายลงพื้นที่ช่วยเหลือ แถม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ก็ถึงกับสมัครใจหักเงินเดือนหลายล้าน ช่วยผู้ประสบภัย โดยไม่แบ่งแยกว่าใครเสื้อสีใดทั้งสิ้น

น่าเสียดายที่ยังคงมีคนเสื้อแดงบางพื้นที่ ไม่กี่คน ไม่รู้กาลเทศะ บ้าไม่เลิก

น้ำท่วมแท้ๆ ก็ยังอุตส่าห์ไปเล่นเกมการเมือง ตั้งป้อมด่าทอผู้นำฝ่ายค้าน จนเกือบจะถูกชาวบ้านด้วยกันเล่นงานบานปลาย

ไม่ต่างกับอำมาตย์เสื้อแดงที่ยังเดินเกมการเมือง จุดไฟความแตกแยกไม่หยุดหย่อน

และไม่ต่างกับ "ทักษิณ ชินวัตร" ที่ยังบ้าน้ำลายไม่เลิก!

ล่าสุด... ทักษิณให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คุยโวหาเสียง หวังเอาดีเข้าตัวอย่างไม่ดูกาลเทศะ โม้ถึงการฟื้นฟูหลังน้ำท่วมว่าสามารถหาเงินให้ได้อย่างน้อย 1 แสนล้านบาท โดยไม่จำเป็นต้องกู้ และจะแก้ไขปัญหาน้ำอย่างบูรณาการ โดยใช้เงินถึง 4 แสนล้านบาท ฯลฯ

"ผมบอกรัฐบาลว่าไทม์มิ่ง (ระยะเวลา) ตอนนี้เหมาะที่สุด เพราะจีนมีเงินสดเยอะ และจีนมีสหรัฐฯ เป็นลูกหนี้รายใหญ่มาก จีนก็รู้สึกว่าการมีสหรัฐฯ เป็นลูกหนี้ใหญ่ในเวลานี้ความไม่แน่นอนมีอยู่เยอะ จีนก็อยากจะมีลูกหนี้มากหน่อย ถ้าเราเป็นลูกหนี้เราก็เป็นลูกหนี้ที่น่าเชื่อถือ และจีนก็อยากจะให้เราเป็นลูกหนี้ที่ชำระโดยสินค้าเกษตร รัฐบาลก็ต้องทำงานหนักหน่อยในเรื่องจีทูจีกับจีน"

พฤติกรรมเยี่ยงนี้ นับเป็น การ "ตีกิน" ทางการเมือง

น่ารังเกียจยิ่งกว่านักการเมืองจำพวกที่บริจาคเอาหน้า เอาป้ายชื่อตัวเองไปแปะกับถุงบริจาค เพราะคนพวกนั้นถึงจะอยากได้หน้า อยากได้คะแนนนิยม มันก็ยังลงทุนเอาเงินตัวเองซื้อของไปแจก

แต่กรณีอย่างทักษิณนี้ เรียกว่า "ดีแต่พูด" และ "ดีแต่โม้"

ปั้นน้ำลายเป็นตัว!

ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่คนไทยจะตาสว่างกันเสียที เพราะคนๆ นี้ คุยโวโอ้อวดไว้ตั้งกี่เรื่องแล้วไม่สำเร็จ อาศัยคำคุยโวคำโตๆ ทำให้คนไทยบางกลุ่มเกิดอาการ "เมาน้ำลายทักษิณ" หลงเชื่อ หลงเพ้อไปไม่น้อย

ปัญหารถติดใน กทม.จะหมดไปภายในหกเดือน (รถหายติดหรือยัง)

คนจนจะหมดประเทศภายในหกปี (อำเภออาจสามารถ หายจนหรือยัง) ฯลฯ

ที่สำคัญ ครั้งนี้มันชัดเจนว่า จงใจโกหก สำรอกน้ำลายใส่หน้าคนไทย เหมือนดูแคลนว่าคนไทยเรากินหญ้าหรืออย่างไร เพราะเล่นคุยโวว่ารัฐบาลจะไม่ต้องกู้ ไม่ต้องเป็นหนี้เลย

โกหกหน้าด้านๆ

เพราะข้อเท็จจริงมันประจานอยู่ทนโท่ ว่ารัฐบาลที่ "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" ในขณะนี้ เพิ่งทำงานไปไม่กี่เดือน ก็ก่อหนี้ไปหลายแสนล้านบาทแล้ว!

ถ้าไม่กู้หรือไม่เป็นหนี้ แล้วจะเอาเงินมาจากไหน (ของฟรีไม่มีในโลก)

สั่ง ส.ส.เพื่อไทยหักเงินเดือนช่วยน้ำท่วมเหมือนประชาธิปัตย์ ยังจะเกิดประโยชน์กว่า

นี่คือข้อเท็จจริงที่คนเสื้อแดงควรจะตาสว่างได้แล้ว

เลิกเชื่อคำโม้ คำคุย คำโว เพียงเพื่อหวังผลทางการเมืองของคนตระกูลนี้เสียที

วิกฤติทุกครั้ง เราคนไทยต้องช่วยเหลือตัวเอง และช่วยเหลือกันเอง บนพื้นฐานข้อมูลข้อเท็จจริงและภูมิปัญญาที่เหมาะสมกับพื้นที่ของเราเอง ไม่ใช่ไปหวังน้ำบ่อหน้า

น้ำลายของทักษิณยามนี้ มีค่าน้อยกว่า "ส้วมกระดาษ" สักหนึ่งอันเสียอีก!

นสพ.แนวหน้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น