วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

เทศกาล “วิ่งฝุ่นตลบ”

เทศกาล “วิ่งฝุ่นตลบ”
นายปกครอง
หลังจากการเองลงตัวแล้ว คราวนี้เป็นเรื่องของวิถีชีวตของข้าราชการกันบ้าง ในช่วงเดือนกันยายนเป็นเทศกาลที่เรียกว่า “วิ่งฝุ่นตลบ”
ผล ประโยชน์ก้อนแรกของนักการเมืองที่จับจ้องกันนั้น จะมองข้ามไม่ได้เลยกับการกินหัวคิวการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทุกหน่วย ทุกสังกัด ข้าราชการหลายคนก็ไม่มีอันทำงานเพราะต้องวิ่งเต้นเข้าหานักการเมืองเพื่อให้ เลื่อนตำแหน่งชั้นยศกันทุกรูปแบบ
ดัง นั้น ตั้งแต่นี้ไปข้าราชการหลายคน นอกจากการวิ่งฝุ่นตลบแล้ว เมื่อผ่านเดือนตุลาคมไป ก็ยังต้องอาศัยการปรับตัวให้เข้ากับงาน บางคนไม่มีความเหมาะสม มาด้วยเส้นสาย ทำงานล้มเหลว ไม่มีใครสนใจในเรื่องนี้ เพราะได้ตักตวงผลประโยชน์ไปก้อนโตแล้วนั่นเอง
ในช่วงเวลาเดียวกัน กลุ่มข้าราชการบางคนที่น้อยเนื้อต่ำใจ ก็ไม่คิดอยากจะทำงาน
ในขณะที่ข้าราชการอีกหลายคนเช่นกันก็ยังตั้งป้อมจะฟ้องร้องนักการเมืองด้วยความคิดที่ว่า ถูกกลั่นแกล้งจากเจ้านาย ทำงานแทบตายไม่ได้ดี
ใน เมื่อการทำงานของข้าราชการเป็นเช่นนี้ จึงทำให้ประชาชนคาดหวังอะไรได้ยากเช่นกัน โดยเฉพาะในกลุ่มงานของตำรวจ เวลานี้ก็พยายามวิ่งเต้นกัน 4 สายด้วยกัน
เริ่ม จากสายแรก สีกากีหลายคนแทบจะยกขบวนบินไปดูไบ บางคนก็ประสบความสำเร็จ คว้าชัยชนะได้รับการแต่งตั้งให้อยู่ในตำแหน่งสำคัญ เหตุที่เป็นเช่นนี้คงเกิดมาจากความสำเร็จของข้าราชการบางคน จึงต้องมีผู้เลียนแบบ พยายามใช้สูตรเดียวกัน
อีก สายหนึ่ง คงหนีไม่พ้นจันทร์ส่องหล้า หลายคนสามารถเข้าถึงก้นครัว บางคนยอมแม้กระทั่งล้างจาน จุดบุหรี่ ดีดไฟแช็ค เพื่อให้ได้มาซึ่งลาภยศนั่นเอง
อีกสายหนึ่ง หนีไม่พ้นคนใกล้ชิดของนายกฯหญิง ที่พอจะมีพลังอยู่บ้าง แบ่งสรรปันส่วนที่จะผลักดันคนของตัวเองขึ้นสู่ตำแหน่งได้
สายสุดท้าย เป็นเรื่องของกลุ่มเครือญาติในตระกูลผู้มีอำนาจฝากฝังให้เลื่อนตำหน่งได้
โดยสรุปในตอนนี้ หนีไม่พ้นข้าราชการวิ่งฝุ่นตลบ บรรยากาศต่อไป ต้องพบกับข้าราชการที่ผิดหวัง ทำงานแทบตายไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง
บรรยากาศ ต่อไป คงต้องลุ้นกันว่าข้าราชการที่ได้รับการแต่งตั้ง จะมีความสามารถในการทำงานได้หรือไม่ ซึ่งเด้กเส้นนั้นต้องยอมรับอีกเช่นกันว่าคุณมบัติที่เหมาะสมมีน้อยเต็มทน วิ่งเต้นเพื่อให้ได้ตำแหน่งเท่านั้นเอง
บรรยากาศเช่นนี้จะเกิดขึ้นทุกปี อย่างน้อย 4 เดือน ไม่มีอันทำงาน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า
สุด ท้ายคงต้องวอนสิ่งศักดิ์สิทธื ช่วยดลบันดาลให้นักการเมืองเลิกเรียกรับผลประโยชน์จากกลุ่มข้าราชการกันได้ เสียที หลังจากนันคงต้องปลุกจิตสำนึกจากผู้กินภาษีประชาชน กระตุ้นให้ทำงาน เชื่อว่าประเทศชาติคงเจริญได้อีกมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น